เอกสารแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ชี้ชัด “Single Gateway” กลับมาแล้ว

ถึงแม้เมื่อปลายปีที่แล้ว ทางรัฐบาลได้ออกมาปฏิเสธการใช้ระบบ Single Gateway หรือระบบควบคุมการจราจรข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตโดยรวมช้าลง ทั้งยังเสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ของผู้ใช้ไปแล้ว โดยกล่าวว่าเป็นเพียงการสั่งการให้กระทรวงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ศึกษาแนวทางความเป็นไปได้เท่านั้น แต่ล่าสุด กลับมีภาพเอกสารที่ระบุว่า กระทรวงไอซีที เสนอแก้ไขมาตรา 15 และมาตรา 20 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้รัฐมนตรีสามารถออกประกาศกำหนดให้มีวิธีการในการปิดกั้นข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสได้ โดยถ้าผู้ให้บริการไม่ให้ความร่วมมืออาจมีความผิด

ทั้งนี้ เนื้อหาของร่างดังกล่าวสอดคล้องกับกระทรวงไอซีทีที่ 163/2557 ที่จัดตั้งคณะทำงานทดสอบระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์ ให้หาวิธีตรวจสอบและปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีการเข้ารหัส SSL และประสานงานกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและเกตเวย์เชื่อมต่างประเทศ โดยในร่างแก้ไข มาตรา 20 ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ขออำนาจศาลสั่งบล็อคเว็บได้ โดยระบุว่า “รัฐมนตรีอาจประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ ระยะเวลา และแนวทางการปฏิบัติสำหรับการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันภายใต้พัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป”

อย่างไรก็ดี สำหรับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ผ่านรับหลักการในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วาระที่ 1 แล้ว ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างฯ โดยมีกำหนดส่งกลับให้สนช.ไปพิจารณาต่อภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ส่วนในขณะนี้ ได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวออกมาบ้างแล้ว โดยทาง Amnesty International Thailand, เครือข่ายพลเมืองเน็ต (Thai Netizen Network) และ Privacy International ได้ยื่นข้อเสนอต่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ให้มีการแก้ไขเนื้อหาในบางมาตราของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว

ที่มา: Thai Netizen Network, ประชาไท