รำคาญเสียงคนเคี้ยวข้าวดังไม่ได้เป็นแค่เรื่องความรู้สึก แต่เป็นอาการทางสมองที่เรียกว่า Misophonia

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หงุดหงิดรำคาญใจจนรู้สึกคลั่งหรือทนไม่ไหวขนาดต้องเดินหนีให้ห่างเมื่อได้ยินเสียงคนเคี้ยวข้าวแจ๊บๆ ไม่ปิดปาก ซดน้ำซุบดังๆ เคี้ยวหมากฝรั่งหยับๆ ฯลฯ คุณอาจกำลังเป็น “ไมโซโฟเนีย” (Misophonia) โรคกลัวเสียง ที่กำลังตกเป็นที่ถกเถียงว่าควรอยู่ในกลุ่มอาการทางจิตหรือไม่

Misophonia คืออาการเกลียดกลัวเสียงบางรูปแบบจนถึงขั้นทนไม่ได้เมื่อได้ยินเสียง บางอย่างที่เป็นเสียงกระตุ้น ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละบุคคล อาทิ เคี้ยวอาหารเสียงดัง เสียงคนกินป๊อบคอร์น เสียงคนกินมันฝรั่งทอดกรอบ เสียงกรอบแกรบของถุงขนม เสียงชอล์คขูดขีดกับกระดาน เสียงกดปากกาเล่น เสียงเพลงที่ดังทะลุหูฟังออกมา เสียงลมหายใจดังๆ ฯลฯ อาการนี้ไม่ใช่จริตที่เกิดจากการถูกปลูกฝังเรื่องมารยาท แต่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสมองซึ่งผู้ที่เป็นไมโซโฟเนียตอบสนองต่อเสียงเหล่านี้แตกต่างจากคนทั่วไป

จากการศึกษาของนักวิจัยจาก Newcastle University ซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Current Biology ที่ได้ทำการทดสอบผู้ร่วมทดลอง 42 ราย โดย 20 รายในจำนวนนี้มีอาการไมโซโฟเนีย ขณะที่อีก 22 รายเป็นปกติดี พบว่าเมื่อเกิดเสียงที่น่ารำคาญแบบต่างๆ เช่น เสียงฝน เสียงคนกรีดร้อง ให้ผู้ทดลองฟังแล้วติดตามการทำงานของสมองด้วยเครื่องเอ็มอาร์ไอสแกน

พบว่าในกลุ่มคนที่เป็นไมโซโฟเนีย สมองส่วน anterior insular ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงประสาทรับรู้เข้ากับอารมณ์ความรู้สึกทำงานมากผิดปกติเมื่อได้ยินเสียงที่เป็นเสียงกระตุ้นซึ่งแตกต่างจำเพาะไปในแต่ละคน ทำให้เกิดอารมณ์โมโหฉุนเฉียว ขณะที่กลุ่มคนที่ไม่เป็นไมโซโฟเนีย สมองส่วนดังกล่าวตอบสนองในระดับปกติและแสดงออกเพียงอาการรำคาญในระดับธรรมดา

ภาพ: @chairulfajar_ / Unsplash

แม้เป็นที่ทราบแล้วว่าไมโซโฟเนียเกิดจากการตอบสนองที่ผิดปกติของสมอง แต่ในปัจจุบันอาการนี้ก็ไม่ได้ถูกจัดว่าเป็นอาการทางจิตแต่อย่างใด และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในวงการแพทย์ นอกจากนี้อาการดังกล่าวยังไม่มีหนทางรักษา แต่ผู้ที่เป็นไมโซโฟเนียก็สามารถดูแลตนเองได้ด้วยการหลีกเลี่ยงเสียงกระตุ้น รวมถึงใช้การใช้ที่อุดหู

อาจมีหลายคนอาจรู้สึกแย่กับตัวเองที่หัวเสียสติหลดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงน่ารำคาญ บางทีนั่นอาจไม่ได้เป็นเพราะคุณความอดทนต่ำหรือบกพร่องเรื่องการจัดการควบคุมอารมณ์ตัวเอง แต่อาจเพราะคุณเป็นไมโซโฟเนีย สมองคุณถึงได้ตอบสนองกับเสียงนั้นแตกต่างจากคนทั่วไปนั่นเอง
ที่มา: ladbible, BBC