NEW RELEASE: เรื่องก่อน ‘คืนนั้น’ ของกอล์ฟ-ธัญญ์วาริน

July 12, 2018
2011 Views

ทันทีที่ Teaser ภาพยนตร์เรื่อง “คืนนั้น Red wine in the dark night” ปล่อยออกไปให้ชมชั่วข้ามคืน กระแสตอบรับก็มีทั้งคนที่ตั้งตารอคอยวันที่หนังจะเข้าโรง และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมถึง ‘ความแรง’ ของภาพในหนัง

ก่อนคิดไปเองว่าหนังเรื่องนี้แค่จะนำเสนอฉากเซ็กส์เอาใจคนดูหรือเปล่า เราชวนกอล์ฟ-ธัญญ์วาริณ สุขะพิสิษฐ์ มาพูดคุยถึงประเด็นที่เขาอยากบอกกับคนดู ความสนุกหลังกลับมาทำหนังอิสระด้วยเงินทุนตัวเองอีกครั้ง และมุมมองว่าหนังเรื่องนี้จะแตกต่างจากหนังชายรักชายกว่า 10 เรื่องที่จ่อคิวเข้าโรงฉายในปลายปีนี้อย่างไร
 

คำตอบหนึ่งที่กอล์ฟบอกกับเราคือเลิฟซีนของเขาที่ฮาร์ดคอร์กว่าเรื่องอื่น…ล้วนมีความหมาย
 
Official Trailer – คืนนั้น
 

เรื่องราวของ “คืนนั้น” มาจากไหน

เริ่มจากพี่อยากทำหนังเกย์อยู่แล้ว คนอาจจะมองว่าเราเป็นผู้กำกับหนังเกย์มาตลอด แต่จริงๆ พี่ยังไม่เคยทำหนังเกย์ที่เป็นผู้ชายทั้งเรื่อง 100% เลย ส่วนมากจะเป็นหนังที่มีตัวละครหลากหลายทางเพศ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรก

เรื่อง “คืนนั้น” มันสะท้อนมุมมองความรักในปัจจุบันของเกย์ ส่วนตัวพี่มองว่าเกย์มีสิทธิพิเศษในการมีชีวิตคู่ที่ไม่ต้องรับผิดชอบมาก อาจเป็นความคิดที่มองโลกในแง่ร้ายนิดนึง แต่มันเป็นความจริง ผู้ชายผู้หญิงเขารักกันจะมีภาระความรับผิดชอบมากกว่า อาจเป็นเรื่องลูก การแต่งงาน การผูกมัดทางกฎหมาย ถามว่าเกย์อยากมีรักแท้ไหม อยากมี แต่ตัวเองก็สามารถมีคนอื่นด้วยได้หรือเปล่า

ต้องการจะบอกอะไรจากความจริงตรงนี้

พี่รู้สึกว่าทัศนคติตรงนี้ดีจริงไหม หนังเรื่องนี้จะเตือนสติคนที่มีความรักว่าต้องใช้เหตุผล ใช้สติด้วย เพราะบางคนรักจนตาบอด สามารถทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งสิ่งที่ผิด มันจะดีเหรอ ความรักมีทั้งด้านขาวด้านดำ ถ้ามันผลักให้เราทำสิ่งที่ไม่ดีเพื่อรักษาคนรักไว้ให้นานที่สุด เราจะต้องทำหรือเปล่า มันคือการตั้งคำถามกับความรักของคนในปัจจุบันว่าเราจะทำอะไรได้มากมายแค่ไหน

ตรงนี้เลยนำไปสู่เรื่องที่เป็นแนวทริลเลอร์ด้วยหรือเปล่า

จริงๆ พี่สร้างสัญลักษณ์ พี่มองว่ามันไม่มีความรักที่อยู่ตรงกลาง มันมีได้เปรียบเสียเปรียบ รักกันนั่นแหละ แต่มันมีรักมากรักน้อยอยู่แล้ว เมื่อคนที่รักมากกว่าต้องทำเพื่ออีกคนมากๆ ให้เขาอยู่กับเราได้นานที่สุด พี่ก็เปรียบเทียบกับการกินเลือดกินเนื้อเรา เราทำงานหาเงินมาเพื่อคนที่เรารัก เลือดเราก็อยู่ในตัวเขาน่ะ เพราะงั้นพี่ก็เลยอุปมาว่าเลือดคือสิ่งที่ทำให้คนที่เรารัก ในเรื่องไวน์เลยต้องพยายามหาเลือดมาให้ไนท์กิน

ประเด็นเรื่องความรักทำให้คนตาบอดก็เป็นเรื่องสากล ทำไมถึงเลือกนำเสนอเป็นแนวชายรักชาย

สังคมเราเริ่มเปิดกว้างคนที่มีรสนิยมทางเพศหลากหลาย การรักเพศเดียวกันเริ่มเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ และต่อให้เรื่องนี้เป็นชายรักชาย มันก็เป็นประเด็นสากล จะผู้ชาย ผู้หญิง ใครก็ดูได้ สามารถคิดไปถึงตัวเองได้อยู่แล้ว ในเรื่องจะพูดถึงคนที่เราเคยรัก คนที่เรากำลังรักอยู่ และคนที่มารักเรา แต่เราไม่เคยรักเขาเลย เรามักจะมีคน 3 ประเภทนี้วนเวียนอยู่ในชีวิตเสมอ จะทำยังไงกับสิ่งนี้ดี พอมันเป็นสิ่งสากล ใครก็ดูได้

ถ้าดูจากทีเซอร์จะเห็นว่าพี่ไม่ได้เน้นตัวละครชายแบบเกย์กล้ามปูที่เป็นภาพจำของทุกคน ในเรื่องคือไวน์ (รับบทโดยฟลุค-พงศธร ศรีปินตา) ที่เป็นนางเอก พี่เรียกว่านางเอกเพราะมันเหมือนผู้หญิง เขาเป็นผู้ชายนะ แต่หน้าหวาน เพราะพี่ไม่อยากให้คนดูผู้ชายรู้สึกแอนตี้ พอปล่อยตัวอย่างไป คนดูเกย์ก็บอกว่าน่าดู มีอะไรน่าค้นหามากกว่าหนังเกย์จิ้นๆ ทั่วไป แต่พี่ได้ฟีดแบ็กจากผู้ชายด้วยว่าน่าดูว่ะ ไม่รู้สึกว่าเป็นหนังเกย์ เพราะตัวเอกแม้จะเป็นผู้ชาย แต่ก็คล้ายผู้หญิงที่ซอยผม ฟลุคมีความที่ระบุเพศไม่ได้อยู่

ฟลุค-พงษธร ศรีปินตา

เป็นสาเหตุที่เลือกฟลุคมารับบทนี้ด้วยหรือเปล่า

ใช่ ฟลุคมีคาแรกเตอร์ตรงกับที่พี่ต้องการมาก มีดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ รอยยิ้มทำให้โลกสดใส ทำผิดแล้วคนต้องให้อภัย เพราะในเรื่องต้องทำผิดเยอะเหลือเกิน เรื่องนี้คนดูต้องไม่เกลียดตัวเอกตัวนี้ ถ้าเกลียดแย่เลย เพราะมันเป็นคนที่ถลำลึก ทำผิดตลอดเวลาเพื่อคนที่มันรัก แต่คนต้องไม่เกลียดมัน ต้องเข้าใจว่ามันไม่ผิดทั้งที่มันทำผิดอยู่ เลยได้ฟลุคที่ทำชั่วทำเลวแค่ไหน ยิ้มมาทีนึงก็ให้อภัยได้

ฉากเลิฟซีน ฉากเซ็กส์ที่ใส่เข้ามาในหนังมีความจำเป็นขนาดไหน

จุดขายเรื่องนี้ที่ต่างจากหนังเกย์เรื่องอื่นๆ คือภาพฉากเซ็กซ์ ฉากเลิฟซีนที่ฮาร์ดคอร์กว่า แต่พี่จะบอกว่าเลิฟซีนในเรื่องมีความหมาย มีคาแรกเตอร์ ไม่ใช่ว่าใส่ฉากเซ็กซ์ลงไปให้เห็นคนเอากันเฉยๆ ไม่ใช่ ถ้าเข้าไปดูจะรู้ว่าฉากเลิฟซีนของพี่แต่ละฉากจะเล่าคาแรกเตอร์ของตัวละคร จะเห็นว่าเซ็กซ์ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ดูว่าใครรักใครมากกว่า ใครมีเซ็กซ์เพราะความต้องการหรือเพราะความรัก ถ้าดูในตัวอย่างจะมีฉากที่ตัวละครจูบนิ้วเท้ากับอีกคน เพื่อจะบอกถึงคาแรกเตอร์ว่าคนที่รักใครสักคนมากขนาดอมนิ้วเท้าได้ ต้องรักเขามากแค่ไหน และคนนึงทำไม่ได้แปลว่าอีกคนจะทำตอบ

รับมือกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลังปล่อยทีเซอร์ยังไงบ้าง

มีฟีดแบ็กที่บอกว่ามันแรงไปไหม เหมาะสมไหม ความพอดีอยู่ตรงไหน พี่ก็อ่านนะ เช็คกระแสตลอด แต่ที่พี่ไม่ต้องเข้าไปแก้ตัวคือมันมีคนดูกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะช่วยหนัง ไปแก้ต่างให้ว่าไม่อยากดู ไม่มีใครว่า เขาไม่ได้บังคับให้คุณดู เพราะงั้นคุณจะออกมาด่าทำไม เรามีสิทธิเลือกที่จะดูหรือไม่ดู

พี่ไม่แคร์ว่าคนที่ไม่ชอบ คนที่อคติ เขาก็ไม่ดูอยู่แล้ว พี่คงไม่ต้องดึงเขามาดู แต่กลายเป็นเขามาวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ที่ไม่ดี ซึ่งพี่ยอมรับเสียงวิจารณ์ได้อยู่แล้ว มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลในการแสดงความเห็นต่อสิ่งที่เราเห็น แต่หนังทุกประเภทก็ต้องมีพื้นที่ของมันหรือเปล่า เรามีพ.ร.บ.ภาพยนตร์กำหนดเรตของหนังเพื่อจะบอกว่าหนังมีที่ทางของมัน เรามีสิทธิโปรโมทให้ทุกคนได้เห็นหนังเรา ส่วนคนที่อยากดูก็เสียเงินเข้ามาดูหนังเรา พี่ว่าก็แฟร์ๆ

คุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก เราต้องการจะบอกว่าสังคมไม่ได้มีแค่ผู้ชายผู้หญิง คนร้อยคนไม่มีใครหน้าตาเหมือนกัน พื้นฐานการศึกษาแตกต่างกัน พื้นฐานครอบครัวแตกต่างกัน เราคาดหวังให้ทุกคนคิดเหมือนกันหรือมีรสนิยมเดียวกัน มันเป็นไปไม่ได้ สิ่งสำคัญคือต้องเคารพคนอื่นให้เหมือนที่เราเคารพตัวเอง ยอมรับว่าทุกคนมีทัศนคติต่อโลกใบนี้ของเขา ไม่ใช่บังคับให้ทุกคนคิดเหมือนกันกับเรา

เรื่องนี้กลับมาทำหนังอิสระอีกครั้งหลังจากไปทำหนังสตูดิโอมาหลายเรื่อง ชอบแบบไหนมากกว่า

จริงๆ พี่โอเคหมด ไม่ได้รู้สึกว่าอึดอัดหรือตัวเองลำบาก เพราะไม่ว่าจะทำหนังสตูดิโอหรือหนังอิสระต่างก็มีโจทย์ สิ่งที่ต้องทำในฐานะผู้กำกับคือทำตามโจทย์ ตีโจทย์ว่าเราได้รับอะไรมา เรามีสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่อยากทำ มาพร้อมข้อจำกัดว่าเป็นหนังระบบสตูดิโอ ตรงนี้เป็นความสนุกท้าทายว่าทำยังไงให้เอาสิ่งที่เราอยากทำกับสิ่งที่สตูดิโอต้องการมารวมกันให้เป็นหนังหนึ่งเรื่อง การทำหนัง ถ้ามันไม่มีแพชชั่นของผู้กำกับ มันทำไม่ได้หรอก เพราะงั้นหนังสตูดิโอทุกเรื่องที่พี่ทำ พี่แฮปปี้มาก

ในขณะที่หนังอินดี้ พี่อยากทำมาก แต่ข้อจำกัดคือไม่มีเงิน พี่ก็ต้องตีโจทย์ว่าเราจะทำสิ่งที่เราอยากทำยังไงในเงินเท่านี้ สตูดิโอให้เราถ่ายได้ 10 กว่าวัน แต่หนังเรื่องนี้เราถ่ายได้แค่ 6 วัน ทำยังไงให้เป็นหนัง 2 ชั่วโมงเหมือนกัน สนุกเหมือนกัน มี production value เหมือนกัน

เรียนรู้อะไรบ้างจากการทำหนังเรื่องนี้

การทำงานเรื่องนี้ทำให้พี่เติบโตมาก เพราะได้ทำทุกอย่างตั้งแต่ลงทุน จัดจำหน่ายเอง ทำมาร์เก็ตติ้ง พีอาร์เอง ทำเองทุกขั้นตอนจริงๆ มันสนุก มันยาก แต่มันได้แก้ปัญหา ได้ทบทวนหนังตัวเองบ่อยๆ ว่ามันเป็นยังไง ตอนนี้เราจะทรีทกับมันยังไง ทำให้พี่แอคทีฟเหมือนตัวเองเล่นเกมเก็บเลเวลอัพไปอีก

ปกติทำหนังหนึ่งเรื่อง พี่ก็รู้สึกว่าเราจบมหา’ลัยหนึ่งปีไปเรื่อยๆ เพราะมันได้ความรู้อะไรมากมาย แต่สำหรับ “คืนนั้น” เหมือนข้ามไปอีกสเต็ป คือจบปริญญาตรีแล้วข้ามไปจบปริญญาโทเลย ขนาดที่เรียนรู้มาตลอดหนัง 7 เรื่องที่ผ่านมา เรื่องนี้มันเยอะกว่านั้นอีก ต้องแก้ปัญหาตลอดเวลา เรามีพลังเยอะมาก และทำให้คนที่ทำงานกับเราสนุก พี่เป็นคนไม่มีฟอร์ม ไม่รู้พี่ก็ถาม ไม่เข้าใจพี่ก็ถาม พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งตลอดเวลา ทำให้คนที่ทำงานกับเราก็พร้อมจะให้ความรู้กับเรา

มองทิศทางของหนังเกย์ไทยอย่างไรบ้าง

พี่มองว่าธุรกิจหนังตอนนี้ หนังใหญ่ๆ ที่ตีตลาดให้ทุกคนไปดู มันประสบความสำเร็จน้อยมาก ส่วนมากจะล้มเหลว มันทำให้ปีที่แล้วมีหนังเฉพาะกลุ่มเกิดขึ้น เช่น พี่ชาย My Bromance (2014) มันมีคนดูกลุ่มนึงที่พอผลิตหนังสำหรับเขาแล้ว เขาพร้อมออกมาดู ตอนนี้โลกเราเป็นสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ก คนที่มีรสนิยมเดียวกันก็เริ่มจับเป็นกลุ่มก้อน พอมีหนังอะไรที่เข้าถึงกลุ่มพวกเขา เขาก็แชร์กัน บอกกันว่ามีเรื่องนี้ เฮโลไปดูกัน ตัวพี่และผู้สร้างอีกหลายๆ คนเห็นตรงนั้นเหมือนกันว่าหนังเฉพาะกลุ่มเหล่านี้มีลูกค้า ก็เริ่มจะหาเป้าหมายที่ตรงกลุ่มตัวเองมากขึ้น พี่ว่ามันเป็นเทรนด์นี้

ยิ่งมีหนังแนวนี้เยอะขึ้น จะเปลี่ยนแปลงอะไรในสังคมเราบ้างไหม

มีหนังเกย์ขึ้นมาเยอะๆ จะทำให้คนยอมรับมากขึ้นไหม การที่เราให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ การรักเพศเดียวกันมากขึ้น มันไม่ใช่แค่กระแสในประเทศไทย แต่เป็นทั่วโลก เราจะถูกมองว่าทำให้เกย์ในไทยเยอะขึ้นหรือเปล่า เกย์ไม่ใช่การป่วยไข้ โรคติดต่อ หรือแฟชั่นที่ใครอยากเป็นมาเป็นได้ แต่คือความเป็นมนุษย์ที่อยู่ลึกๆ ของเรา เราเกิดมาเป็นแบบนี้ ไม่ใช่สื่อไปกระตุ้นให้เป็นมากขึ้น คนที่เป็นผู้ชาย ต่อให้ดูหนังเกย์ให้ตายก็ไม่เป็นเกย์หรอก แต่คนที่มีรสนิยมทางนี้อยู่แล้ว เมื่อมีสื่อยอมรับ มีพื้นที่ เขาก็เปิดตัวออกมา เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ประหลาด ก็ยอมรับว่าในเมื่อมันมีอยู่ คุณจะปฏิเสธว่ามันไม่มีได้ยังไง เราต้องอยู่ร่วมกันในสังคม ก็ต้องทำความเข้าใจว่าสังคมที่คุณอยู่ไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว มันมีคนอื่นที่มีความคิดและรสนิยมต่างจากคุณด้วย

ทิศทางของตัวละครที่มีความหลากหลายทางเพศในสื่อบันเทิงจะเป็นยังไงต่อ

เยอะมาก พี่มองว่าแนวโน้มคาแรกเตอร์เกย์ ตุ๊ด ทอม ดี้ในหนังไทยเริ่มไม่เป็นแค่ตัวตลก ไม่ใช่สีสันแล้ว มีมิติที่เป็นมนุษย์มากขึ้น มีมิติด้านสังคมการเมืองมากขึ้น พี่มองว่าในอนาคต ตัวละครเหล่านี้จะถูกมองเป็นเรื่องปกติ คนในหนังไม่ว่าจะแอคชั่น ฮีโร่ มือปืน จะเป็นใครก็ได้ จะมีรสนิยมทางเพศแบบไหนก็ได้โดยที่เราไม่ได้เอามาเป็นจุดเด่นอีกต่อไป เราจะบอกว่าเป็นคาแรกเตอร์ของคนๆ นั้นได้แทน คือมองให้เป็นปกติไปเลย


คืนนั้น (red Wine in the dark Night) เข้าฉายพร้อมกันในโรงภาพยนตร์วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคมนี้
หนังได้รับเรต 18+ สำหรับผู้ปกครองให้คำแนะนำ และไม่ตรวจบัตรประชาชนหน้าโรงภาพยนตร์

ภาพ: คืนนั้น Red wine in the dark Night

 


NEW RELEASE: พูดคุยกับศิลปินที่มีผลงานใหม่น่าจับตามอง สำรวจความคิดเบื้องหลังและทัศนคติดีๆ ที่จะเปลี่ยนมุมมองบางอย่างกับคุณ
มีใครน่าสนใจหรืออยากให้สัมภาษณ์ใคร ส่งมาบอกเราได้ที่ [email protected]


Tell us what you think!

You may be interested

คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้
AROUND THE WORLD
shares6090 views
AROUND THE WORLD
shares6090 views

คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้

Sapparot - Dec 26, 2018

คุณครูชั้นประถมในสหรัฐฯ อวดของขวัญชิ้นโดนใจที่ได้รับในช่วงเทศกาลแห่งความสุขจากลูกศิษย์ตัวน้อยที่แม้ตัวเองจะไม่มีอะไรก็ยังตั้งใจสรรหาของขวัญมาให้คุณครูจนได้ ถึงจะเป็นแค่มาร์ชเมลโลว์จากซีเรียลอาหารเช้าธรรมดา ๆ แต่เพราะว่ามีความตั้งใจของหนูอยู่เต็มเปี่ยมในนั้น มันเลยพิเศษที่สุดเลย

10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018
LIFESTYLE
shares5317 views
LIFESTYLE
shares5317 views

10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018

Sapparot - Dec 25, 2018

10 รูปยอดไลค์สูงสุดจาก Instagram ปี 2018 รวมแล้วมาจากคนดังระดับโลกเพียง 5 คนเท่านั้น โดยมีหนูน้อย Stromi ลูกสาว Kylie Jenner เรียกยอดไลค์กดหัวใจให้คุณแม่ได้อย่างดีเชียว

อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior
Accesseries
shares4712 views
Accesseries
shares4712 views

อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior

Sapparot - Dec 24, 2018

Dior เผยโฉมแอคเซสซอรี่ชิ้นใหม่ Rose Céleste จี้กลมรูปพระอาทิตย์-พระจันทร์ งานแฮนด์เมดสุดปราณีตจากทองคำและเปลือกหอยมุก