New Release: รู้จักกับ ‘ควีนบี’ แห่ง Gossip Girl Thailand ‘คาริสา สปริงเก็ตต์’
พอรู้ว่าค่ายละครในไทยประกาศซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์ Gossip Girl จากฝั่งอเมริกา ก็ทำเอาเราดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ เพราะซีรีส์ดังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั่วโลก เรื่องราวของชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลกลุ่มหนึ่งย่าน Upper East Side ของมหานครนิวยอร์ก ความรัก มิตรภาพ การแก่งแย่งชิงดี เนื้อหาเหล่านี้แรงและกระแทกใจคนดูเข้าอย่างจัง
เมื่อมันกลายมาเป็น Gossip Girl Thailand ดีกรีความแรงเรท 18+ อาจจะขัดแย้งกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมบ้านเราไปหน่อย แต่เชื่อว่าหากมองอย่างเปิดใจยอมรับความจริง มันจะกลายเป็นการเปิดมิติใหม่ให้ละครไทยเลยทีเดียว
ก่อนไปพิสูจน์คุณภาพของละครเรื่องนี้ เรามาคุยกับตัวละครหลักของเรื่องอย่าง ควีนบี (Blair Waldorf) หรือชื่อไทยว่า แบลร์ เบียทริซ วรานนท์ ที่รับบทโดย ‘คาริสา สปริงเก็ตต์’ สาวน้อยวัย 17 ปีจากเวที The Face Thailand Season 1 ที่เราเชื่อว่าเล็กพริกขี้หนูอย่างเธอจะช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนให้ Gossip Girl Thailand ได้แซ่บสมใจ
คิดว่าอะไรทำให้เราได้รับบท Blair Waldorf ใน Gossip Girl Thailand
อาจเป็นเพราะลักษณะตัวละครใกล้เคียงกับหนูมั้งคะ หนูคิดว่าหนูเป็นคนชอบสีสัน ชอบการแต่งตัว ชอบช้อปปิ้ง เป็นคนรักสนุก ร่าเริงสดใส ยิ้มง่ายคล้ายๆ แบลร์ แล้วก็อาจจะเป็นเรื่องของอายุด้วยค่ะ จริงๆ เหตุผลที่เค้าเลือกหนู หนูก็ไม่เคยถามนะคะ แต่พี่เต้เค้าบอกว่าเค้าเชื่อว่าหนูเล่นได้
อะไรที่เราชอบและไม่ชอบมากที่สุดในตัว Blair Waldorf
จากที่อ่านและศึกษาตัวละครจากบท หนูชอบตรงที่ความมั่นใจ ความกล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ของเค้าค่ะ แบลร์เป็นคนไม่ยึดติด ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข เค้าพร้อมจะเริ่มใหม่ตลอดเวลา พร้อมรับทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีมากหากเราเอามาปรับใช้กับตัวเราเอง ส่วนสิ่งที่หนูไม่ชอบ หนูคิดว่าเป็นความอยากเอาชนะ ต้องเป็นที่หนึ่งตลอดเวลา มันก็เป็นอะไรที่น่าจะเหนื่อยอยู่เหมือนกัน
เรารู้สึกรักหรือเข้าถึงในตัวละคร Blair Waldorf มากขนาดไหน
หนูชอบตัวละครนี้นะคะ หนูรู้สึกว่ามันคือชีวิตจริง มีคนแบบนี้อยู่ทั่วโลก ไม่ต่างกับบทละครที่มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่อย่างเมืองนอกเค้าค่อนข้างเปิดกว้างกว่าเรา ส่วนในเมืองไทยเรามีวัฒนธรรมที่ค่อนข้างเข้มงวด ไม่มีใครกล้าพูด ตรงนี้มันเลยเป็นโอกาสที่ดีของหนูที่จะได้เรียนรู้ชีวิตคนๆ หนึ่ง ได้เข้าใจทัศนคติและความคิดของเค้า
ใช้วิธีอะไรที่ช่วยให้เราสวมบท Blair Waldorf ได้ดีขึ้น
ต้องศึกษาทำการบ้านเยอะๆ ค่ะ อย่างในบทจะมีฉากปาร์ตี้เยอะ เราก็ต้องเสิร์ชหาวิธีจับแก้วไวน์ รู้จักพวกเมนูอาหาร เหล้า และที่สำคัญคือการปรับความคิดว่าถ้าเราเป็นเค้า เราจะคิดยังไง ทำท่าทาง แสดงสีหน้ายังไง ซึ่งครั้งนึงหนูมีโอกาสเรียนแอคติ้งกับครูเงาะ (รสสุคนธ์ กองเกตุ) ครูสอนให้เราทำใจให้สบายแล้วก็รับตัวแบลร์เข้ามา สอนว่าทุกคนเป็นได้ทุกตัวละคร แต่อย่าพยายามเอาตัวคนอื่นมาใส่เรา ให้พยายามหาตัวเค้าในเราแล้วแสดงออกมา ทำให้มันใหญ่ขึ้นค่ะ
ถ้าเราเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับ Blair Waldorf คิดว่าเราจะแก้นิสัยไม่ดีของเขายังไง
หนูก็คงทำแบบเซรีน่า คือเข้าใจในตัวตนของเค้า คนทุกคนมีทุกอารมณ์อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะเข้าใจเค้ามั้ย เราจะยอมรับเค้ามั้ย สมมติเรามีเพื่อนที่นิสัยไม่ดี ถ้าเราไปจี้ปมเค้าหรือรังเกียจเค้า หนูว่าก็จะยิ่งทำให้เค้าร้ายขึ้นไปอีก ซึ่งแบลร์มีปมตรงที่ขาดความรัก ความอบอุ่นจากทั้งแม่และพ่อ เลยคิดไปว่าสิ่งเดียวที่ช่วยได้คือเงิน
เราเคยเจอเรื่องเพื่อนรักเพื่อนแค้นในชีวิตจริงบ้างมั้ย
ไม่มีอย่างนั้นเลยค่ะ แบบในละครนี่หนูยังไม่เคยเจอเลยนะ หนูเป็นคนมีเพื่อนเยอะก็จริง แต่เพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกัน คุยปรับทุกข์ให้กำลังใจกัน แฮงค์เอาท์กัน มันมีไม่กี่คน นับจำนวนได้เลย
ถ้าให้เราเลือกเพื่อนในชีวิตจริง คิดว่าเราจะเลือกคบ Blair Waldorf หรือ Serena van der Woodsen เพราะอะไร
อืม…เหมือนหนูต้องมารับบทแบลร์ เลยรู้สึกรักแบลร์มากกว่าค่ะ อยากมีเพื่อนแบบแบลร์เพราะรู้สึกสนุกดี คือถึงจะร้ายบ้าง แต่มันก็มีเหตุผลรองรับว่าเค้ามีปมในใจเลยอยากเอาชนะคนอื่นนะ ซึ่งถ้าเราเข้าใจตรงนี้ หนูว่าเราก็เป็นเพื่อนกันได้
คิดว่าอะไรที่จะทำให้ Gossip Girl Thailand ต่างจากเวอร์ชั่น New York
หนูรู้สึกว่ามันต่างอยู่แล้วนะคะตั้งแต่ที่ได้รับเล่น มันไม่มีทางเหมือนกันอยู่แล้ว สิ่งที่เหมือนกันคือความเป็นต้นฉบับ การเล่าเรื่อง ตัวละคร หรือบทตรงนี้มันเหมือนของเดิมทุกอย่างเลย ยังดำเนินเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ชีวิตหนุ่มสาววัยเรียน ความสนุกในไฮสคูล แต่สิ่งที่ต่างคือการตีความ บริบทของละคร ซึ่งเราไม่สามารถถ่ายทอดออกมาให้มันเหมือนต้นฉบับเป๊ะๆ ได้อยู่แล้ว
เราเรียนรู้อะไรบ้างจากการเล่นละครเรื่องที่สองเรื่องนี้
หนูคลิกกับบทบาท คลิกกับอารมณ์มากขึ้นค่ะ คือตอนหนูเล่นเรื่องแรก ตัวละครนี้มันน่าสงสารมาก แต่หนูกลับร้องไห้ไม่ได้ทั้งๆ ที่หนูเข้าใจความรู้สึกนะ แต่ร่างกายเรามันไม่พาไป จากนั้นเลยต้องฝึกมากขึ้น ร่างกายมันเหมือนเครื่องจักร ฝึกบ่อยๆ ก็จะทำได้เอง ทุกวันนี้หนูยังต้องฝึกร้องไห้อยู่เลย ซึ่งบางวันที่หนูกดดันตัวเองมากไป มันก็ร้องไม่ออกอีก คือจริงๆ มันก็ยังยากนะคะ แต่หนูก็เต็มที่ทุกครั้ง
อะไรเป็นตัวเรามากกว่ากัน การแสดงหรือเดินแบบ
การเดินแบบเป็นสิ่งที่ชอบ ส่วนการแสดงเป็นสิ่งที่หนูรักค่ะ หนูว่าการเล่นละครสักเรื่อง เราต้องทำการบ้านเยอะมาก เราต้องรู้สึกเข้าถึงตัวละครนั้นๆ แล้วมันก็ใช้เวลาในการถ่ายทำนาน มันเป็นความผูกพัน บางทีก็ไม่อยากให้ผู้กำกับสั่งคัต ยังอยากเล่นต่อ แต่การเดินแบบหนึ่งชั่วโมงแล้วจบแค่นั้น
มาช่วยลุ้นกันว่าสาวน้อยคาริสาจะสามารถสวมบทบาทเป็นคุณหนูแบลร์สุดเริ่ดจนเราลืมซีรีส์ต้นฉบับได้หรือเปล่า Gossip Girl Thailand ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 23.20 น. ทางช่อง 3 HD เริ่มวันที่ 16 กรกฎาคมนี้
NEW RELEASE: พูดคุยกับศิลปินที่มีผลงานใหม่น่าจับตามอง สำรวจความคิดเบื้องหลังและทัศนคติดีๆ ที่จะเปลี่ยนมุมมองบางอย่างกับคุณ
มีใครน่าสนใจหรืออยากให้สัมภาษณ์ใคร ส่งมาบอกเราได้ที่ [email protected]
You may be interested
คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้
Sapparot - Dec 26, 2018คุณครูชั้นประถมในสหรัฐฯ อวดของขวัญชิ้นโดนใจที่ได้รับในช่วงเทศกาลแห่งความสุขจากลูกศิษย์ตัวน้อยที่แม้ตัวเองจะไม่มีอะไรก็ยังตั้งใจสรรหาของขวัญมาให้คุณครูจนได้ ถึงจะเป็นแค่มาร์ชเมลโลว์จากซีเรียลอาหารเช้าธรรมดา ๆ แต่เพราะว่ามีความตั้งใจของหนูอยู่เต็มเปี่ยมในนั้น มันเลยพิเศษที่สุดเลย
10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018
Sapparot - Dec 25, 201810 รูปยอดไลค์สูงสุดจาก Instagram ปี 2018 รวมแล้วมาจากคนดังระดับโลกเพียง 5 คนเท่านั้น โดยมีหนูน้อย Stromi ลูกสาว Kylie Jenner เรียกยอดไลค์กดหัวใจให้คุณแม่ได้อย่างดีเชียว
อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior
Sapparot - Dec 24, 2018Dior เผยโฉมแอคเซสซอรี่ชิ้นใหม่ Rose Céleste จี้กลมรูปพระอาทิตย์-พระจันทร์ งานแฮนด์เมดสุดปราณีตจากทองคำและเปลือกหอยมุก