คุณทวดออสซี่เป่าเทียนวันเกิดอายุ 104 ปี ขอพรประการเดียว อยากให้ชีวิตที่ยืนยาวเกินไปสิ้นสุดเสียที

คุณทวดเดวิด กูดัลล์ (David Goodall) ชายชราชาวออสเตรเลียเพิ่งเป่าเทียนวันเกิดอายุ 104 ปี ไปเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา หากแต่นั่นไม่ใช่การเฉลิมฉลอง “แฮปปี้ เบิร์ธเดย์” เมื่อคุณทวดบอกว่าไม่ได้มีความสุขกับชีวิตบั้นปลายอีกแล้ว หากเป็นไปได้อยากเลือกปิดฉากชีวิตที่ยืนยาวเกินไปนี้ลงเสียที

คุณทวดเดวิด กูดัลล์ หรือด็อกเตอร์เดวิด นักวิจัยในตำแหน่ง Honorary Research Associate ของมหาวิทยาลัยเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบุคลากรที่มีอายุมากที่สุดในองค์กร คุณทวดสนุกกับทำงานเพราะงานคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย นั่นจึงทำให้คุณทวดปฏิเสธที่จะยุติหน้าที่เมื่อทางมหาวิทยาลัยเสนอให้เขารีไทร์จากงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพราะห่วงว่างานอาจกระทบสุขภาพของท่านได้

แต่ในปัจจุบันแม้ใจจะสู้และกระหายที่จะทำงานและกิจกรรมอื่นๆ มากขนาดไหน ร่างกายของคุณทวดเดวิดกลับสวนทาง สายตาของคุณทวดก็เริ่มฝ้าฟางมากจนเป็นอุปสรรคกับงานวิจัยเพราะไม่สามารถอ่านอีเมลงานได้อีกแล้ว สิ่งที่ทำให้ชีวิตของคุณทวดมีจุดหมายและสีสันค่อยๆ ถูกบั่นทอนลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่ต้องเลิกเล่นเทนนิสไปตอนอายุ 90 ปี จำต้องออกจากกลุ่มละครเวทีเพราะสมาชิกในกลุ่มกังวลว่าอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นยามที่ท่านขับรถมาซ้อมละครช่วงค่ำ ส่วนบรรดาเพื่อนฝูงของคุณทวดเดวิดก็ทยอยกันไปสู่สุขคติเสียหมดแล้ว

ในวาระวันเกิด 104 ปี คุณทวดไปเป่าเค้กในงานวันเกิดเล็กๆ ที่บ้านของลูกสาว และเมื่อถูกถามว่า “มีความสุขในวันเกิดไหม?” เจ้าของวันเกิดผู้มีชีวิตยืนยาวจนเป็นที่อิจฉาของหลายคนได้ให้คำตอบว่า “ฉันไม่มีความสุขเลย ฉันอยากให้ชีวิตจบลงเพียงเท่านี้…“

เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่คุณทวดเดวิดเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม Exit International ซึ่งเรียกร้องให้การจบชีวิตโดยสมัครใจสามารถเกิดขึ้นได้อย่างถูกกฎหมายในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย คุณทวดเดวิดเห็นว่าเมื่อประชากรชราคนหนึ่งใช้ชีวิตจนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ได้ใช้ชีวิตตอบแทนสังคม ชดใช้หนี้สินที่ตนเองมีทั้งหมดแล้ว พลเมืองชราผู้นั้นสมควรมีสิทธิโดยชอบที่จะร้องขอการการุณยฆาตได้

คนเราควรมีอิสระที่จะเลือกได้ว่าจะจัดการกับชีวิตที่เหลืออยู่อย่างไร และหากจะมีใครเลือกจะยุติชีวิตตนเองลง นั่นควรเป็นสิทธิพึงชอบของเขาที่ไม่ควรถูกใครจัดการแทรกแซง

จากสถิติการชันสูตรศพการตายที่เกิดขึ้นในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย พบว่ามีผู้ป่วยหนักระยะสุุดท้ายหรือป่วยด้วยโรคที่อาการทรุดลงเรื่อยๆ ฆ่าตัวตายเฉลี่ย 1 คนต่อทุก 2 สัปดาห์ โดยส่วนใหญ่เป็นชายที่อายุมากกว่า 60 ปี

ทั้งนี้การร้องขอการการุณยฆาตเป็นสิ่งอันสามารถกระทำใต้ภายใต้กฎหมายรัฐวิคตอเรีย หากแต่ให้สิทธินี้แก่ผู้ป่วยหนักระยะสุดท้ายเท่านั้น อันหมายความว่าแม้คุณทวดเดวิดจะอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐดังกล่าวก็ไม่สามารถเลือกจบชีวิตตนเองลงได้ เพราะแม้ดวงตาจะฝ้าฟางมากและร่างกายทรุดโทรมลงจากความชรา แต่สุขภาพโดยรวมของคุณทวดกลับถือว่ายังดีอยู่มากด้วยซ้ำ

เมื่อมีคนถามคุณทวดว่ารู้สึกกลัวหรือเศร้าบ้างไหมเมื่อคิดเรื่องความตาย คุณทวดเดวิดตอบว่า “ทำไมฉันต้องเศร้าด้วยเล่า ความตายเป็นเรื่องน่ากลัวเสียเมื่อไร ไม่มีใครหลีกเลี่ยงมันได้หรอก”

ภาพและที่มา: : abc.net.au