COCO Q&A: เปิดทุกย่างก้าวของ “ตะวัน-จิรัชยา เกตุคง” ผู้คว้าตำแหน่ง Asia’s Next Top Model 4
เมื่อปี 2012 นางแบบสูงยาวสัญชาติไทย เจสสิก้า อมรกุลดิลก เคยสร้างชื่อด้วยการคว้าตำแหน่ง Asia’s Next Top Model คนแรกของรายการมาครองได้สำเร็จ ทำให้วงการนางแบบไทยกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง ถัดมาอีกเพียงแค่ 2 ปี ในปีนี้สาวน้อยตาคมจากเมืองลพบุรี ตะวัน-จิรัชญา เกตุคง วัย 20 ปี ก็สามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันจากชาติอื่นจนได้เป็น Asia’s Next Top Model คนที่ 4 ของรายการได้อย่างพลิกความคาดหมาย
หากใครได้ดูรายการจะเห็นว่าตะวันไม่ได้ชนะการแข่งขันในทุกสัปดาห์ แต่ด้วยมาตรฐานที่คงที่ประกอบกับความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองในทุกวีคทำให้เธอสามารถคว้าตำแหน่งนี้มาได้อย่างสง่างามในท้ายที่สุด ตอนนี้ตะวันคงกำลังสนุกอยู่บนเวทีแคทวอล์กที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในฐานะนางแบบของ Storm Models Management แน่นอนว่าก้าวแรกบนเส้นทางสายนางแบบของเธอไม่ได้เริ่มต้นที่รายการนี้ เราจึงอยากชวนคุณไปรู้จักเธอให้มากขึ้นผ่านแต่ละย่างก้าวที่เธอเลือกเดินจนมาเป็นตะวันในวันนี้
ตอนเด็กๆ ตะวันฝันอยากจะเป็นอะไร
ตะวันเกิดอยู่ในครอบครัวธรรมดาค่ะ คุณพ่อคุณแม่ค้าขายในตลาดมีน้องสาวหนึ่งคน อายุ 7 ขวบ ตอนเด็กๆ ก็จะไปช่วยคุณพ่อคุณแม่ตลอด ชอบขายของ ใส่ถุงทอนตังค์ เรื่องเรียนก็เรื่อยๆ จริงๆ ความฝันตอนเด็กก็เหมือนเพื่อนคนอื่นทั่วไปค่ะ อยากเป็นครู อยากเป็นหมอ แต่คนรอบข้างก็จะบอกว่าเราขายาว ตัวสูง ก็อยากให้เราลองไปเป็นนางแบบบ้างสิ ทีนี้พอเรามาเห็นการประกวดในทีวีแล้วก็กลายเป็นชอบ เคยเดินสายนางงามเวทีต่างจังหวัด แต่รู้สึกว่าตัวเองเข้ากับนางแบบมากกว่า
ทำไมตะวันไม่เลือกเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
มันมีปัญหาเรื่องการเงินเข้ามาเลยไม่ได้เรียนต่อค่ะ ตอนนั้นก็เครียดมากๆ นะ พอรู้ว่าจะไม่ได้เรียนต่อ เหมือนเราได้เรียนมาตลอด วันนึงไม่มีตังค์เรียน ชีวิตมันยิ่งกว่าในละครอีก แต่ตอนหลังก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น โตขึ้นก็เฉยๆ ยอมรับไปเอง โชคดีที่ตอนม.ปลาย มีพี่ที่รู้จักกันมาชวนทำงาน ชวนประกวด ครั้งแรกคือ Asia New Star Model Contest เมื่อปี 2013 ตอนนั้นเพิ่งอายุ 18 ตื่นเต้นมาก ตอนนั้นได้เข้าถึงรอบ 10 คนสุดท้ายก็ดีใจมากๆ แล้วก็มีงานเดินแบบทั่วไป
ชีวิตหลังเรียนจบม.6 เป็นอย่างไร
พอจบม. 6 สักพักก็มีพี่มาชักชวนเข้ากรุงเทพฯ มาทำงาน ตอนแรกเราก็กลัว อยู่ยังไง อยู่กับใคร แต่อยู่ไปอยู่มามันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันเริ่มสนุก อย่างครั้งแรกที่ได้ไปแคสงาน เราก็ได้งานเลย มันก็ดีใจ มีกำลังใจทำต่อ งานเด่นๆ เลย ช่วงนั้นก็จะเป็นเดินแบบของ Elle Fashion Week จากนั้นแค่ 3-4 เดือน มีพี่ส่งโปรไฟล์ไปทางเอเจนซี่ฮ่องกง เค้าคอนเฟิร์มาว่าโอเค ตะวันก็บินไปทำงานที่นู่นต่อ
การไปทำงานในต่างประเทศครั้งแรกของเราเป็นอย่างที่คิดไว้มั้ย
ตอนแรกก็รู้สึกหลายอย่างนะ ดีใจก็ดีใจ กลัวก็กลัว เพราะเราไม่เคยไปต่างประเทศเลย เครียดก็เครียด แต่พออยู่ไปนานๆ เราก็เริ่มชิน ตอนนั้นก็มีทั้งงานเดินแบบ, TVC, Presentation, แมกกาซีน คือได้งานหลากหลายมากขึ้น และงานก็มีเข้ามาเรื่อยๆ จนมาจบสัญญา 3 เดือน ก็ขอเซ็นเพิ่มอยู่ต่ออีก 3 เดือน จนมาครบกำหนดสัญญาอีกรอบนึง เราก็ลองหาเอเจนซี่ใหม่ละ ทีนี้มาได้ที่สิงคโปร์
การทำงานในไทยกับต่างประเทศตะวันว่ามันก็เหมือนกัน แต่ต่างประเทศเค้าจะใช้เวลาไวกว่าในการแคสติ้ง เราต้องแต่งหน้าทำผมไปเอง แล้วก็ถ่ายรูปแปปๆ เสร็จ เดินแบบรอบนึง เสร็จละ ปัญหาของเราคือเรื่องภาษาอังกฤษ เราต้องมารื้อภาษาใหม่หมดเลย เพราะเรานึกคำศัพท์ไม่ออก คือฟังรู้เรื่องนะคะ แต่จะตอบอะไรต้องใช้เวลาคิดนิดนึง ก็จะพยายามจดว่าคำนี้แปลว่าอะไร เค้าพูดมาแบบนี้เราต้องตอบยังไง
การทำงานในต่างประเทศเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เราเข้ามาเป็นหนึ่งใน Asia’s next top model
จริงๆ ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ฮ่องกงมีพี่ๆ เชียร์ให้เราสมัครออนไลน์ไปรอบนึงแล้วแต่ก็ไม่ได้มีฟีดแบกอะไรกลับมา จนเรามาอยู่สิงคโปร์ พี่เค้าก็แนะนำให้ลองออดิชั่นดูอีกรอบ จากนั้นก็มีเอกสารส่งมาให้เรามาเซ็นอยู่เรื่อยๆ จนช่วงที่โชว์ใกล้จะเริ่มก็มีจดหมายมาบอกว่าเราได้เป็นหนึ่งใน 14 ทีได้เข้ารายการ
สถานการณ์ในรายการจริงกับที่เราเคยคิดไว้ต่างกันมั้ย
ก่อนเข้ารายการเราก็เปิดดู Asia’s Next Top Model 3 ก่อนจะได้รู้ว่าเค้าทำอะไรกันบ้าง พอเข้าไปก็มีงงๆ บ้าง ทำไมต้องมีสัมภาษณ์ แล้วตอนนั้นภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ดีมาก อีกอย่างคือเราเคยแอบคิดเหมือนกันว่าจะมีสคริปต์หรือเปล่า เค้าก็บอกว่าเข้าไปในรายการเดี๋ยวก็รู้เองว่ามีหรือไม่มี พอเข้าไปแล้วมันก็ไม่มีจริงๆ ค่ะ เราก็จะเจอดราม่า มีทะเลาะกัน เราก็รู้สึกว่า เออ คนนั้นเค้าก็เป็นแบบนั้นจริงๆ บางทีก็ตลกมากกว่า เพราะเค้าก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องตลก แต่กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตมาก
เราเห็นตะวันช็อกมากตอนโดนตัดผมสั้น
ตอนเมคโอเวอร์ตะวันตอบไปว่าไม่ชอบผมสั้น เพราะเคยตัดสั้นมาก่อนแล้วรู้สึกเหมือนหัวเห็ดหรืออะไรสักอย่าง (หัวเราะ) แต่พอเข้าไปข้างใน ฉับแรกก็ข้างหูเลย ตอนนั้นช็อก เลิ่กลั่กมองหน้าคนอื่นว่ามันเป็นยังไงบ้าง เพราะเค้าไม่ให้เราเห็นว่าตัดทรงแบบไหนยังไง ไม่มีกระจกให้ดูด้วย เห็นเพื่อนคนอื่นโดนสกินเฮดบ้าง คนข้างๆ ร้องไห้หนักมาก เราก็ใจไม่ดีแล้ว หลังจากนั้นก็มีนอยบ้างเพราะเราก็ไว้ผมยาวมาโดยตลอด วันนึงมาสั้นขนาดนี้มันก็แปลกๆ นะ แต่เพื่อนก็บอกให้เรามั่นใจเพราะช่างตัดผมเค้าระดับนั้น มอบผมทรงนี้ให้ แสดงว่าเค้าคิดมาดีแล้ว
ตอนนี้รู้สึกยังไงกับผมทรงใหม่
ตอนนี้กลายเป็นว่าชอบผมสั้นไปเลย เพราะตะวันจะห้าวๆ หน่อย จะสวยเท่ ไม่ใช่สวยหวาน ตอนผมยาวก็ใส่เสื้อยืด แจ๊คเกต กางเกงยีนส์เหมือนกัน พอตัดผมสั้น คาแรคเตอร์มันเลยดูชัดขึ้น ทุกคนก็จะบอกว่าผมสั้นดีกว่านะ
ให้เปรียบเทียบตัวตะวันเองตอนนี้กับตอนก่อนเข้ารายการ
อย่างแรกมีความมั่นใจมากขึ้นค่ะ จากที่คิดว่าตัวเองมั่นใจอยู่แล้ว พอเข้าไปในรายการกลายเป็นว่ามีคนมั่นใจกว่าเราเยอะมาก เราก็ต้องมั่นใจให้มากขึ้นอีก ต่อมาคือเรามีประสบการณ์มากขึ้นที่สามารถเอามาปรับใช้ได้กับชีวิตจริง ภาษาเราก็พัฒนาขึ้น เพราะต้องพูดบ่อย พูดทุกวัน เมื่อก่อนเวลาที่เราไม่รู้อะไรเราจะไม่ยอมถาม ตอนนี้เวลาเราสงสัยอะไรตรงไหนก็จะถามเลยเพราะมันเป็นผลดีกับเรา
อยากให้เล่าประสบการณ์จนถึงวันที่ได้ตำแหน่งมาครอง
เข้าไปแรกๆ ไม่ได้คิดจะเอาชนะค่ะ คิดว่าเข้าไปเพื่อหาประสบการณ์ อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง ฝันไว้แค่ว่าให้มีคนจำเราได้ก็ดีแล้ว พอเอาเข้าจริงเรารู้สึกว่าเราก็สู้คนอื่นได้เลยพยายามทำให้เต็มที่ พอผ่านมาเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้เราอยากอยู่ต่อไปอีก จนรอบสุดท้าย 3 คน ตอนนั้นใจนึงก็คิดว่า เอาละไง คนอื่นเค้าชนะกัน 3-4 รูป เรามีแค่รูปเดียว แต่อีกใจนึงก็คิดว่ามันยังไม่ได้ประกาศสักหน่อย รอบไฟนอลเราต้องทำให้ดีเพราะเรามาไกลแล้วเหมือนกัน ส่วนสองคนนั้นเค้าก็เก่ง แพทริเชียเดินแบบสวย ซางอินก็หน้าเก๋ ก็บอกตัวเองว่าต้องแอคทีฟนะ แล้วก็มีพี่ๆ คอยให้กำลังใจเราดีมาก จนเราฮึด ส่วนเพื่อนอีกคน ตุ๊ดติ ก็บอกว่าชนะให้เค้าหน่อยได้มั้ย พอตอนประกาศออกมาว่าเป็นเราได้ก็ดีใจค่ะ ดีใจมาก เพราะทำมาเต็มที่ ตั้งใจเต็มที่
ความฝันสูงสุดในอาชีพนางแบบของตะวัน
ความฝันสูงสุดของตะวันคือมันก็อยากเดินแบรนด์ดังๆ มีงานเยอะๆ แต่สุดท้ายแล้วอยากมีความสุขมากกว่าค่ะ ถ้างานเยอะ เงินเยอะ แต่เราไม่มีความสุขมันก็ไม่โอเค (ยิ้ม) ส่วนเรื่องเรียน เอาเป็นว่าตอนนี้ตะวันขอทำงานก่อน เพราะพอเราได้มาทำงานแล้วก็คิดไม่ออกว่าตัวเองอยากจะไปเรียนอะไรดี แต่สุดท้ายก็ต้องเรียน แค่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นค่ะ
COCO Q&A: คอลัมน์สนทนากับบุคคลน่าสนใจที่คนกรุงเทพฯ ควรรู้จัก เปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตไปกับเรา
You may be interested
คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้
Sapparot - Dec 26, 2018คุณครูชั้นประถมในสหรัฐฯ อวดของขวัญชิ้นโดนใจที่ได้รับในช่วงเทศกาลแห่งความสุขจากลูกศิษย์ตัวน้อยที่แม้ตัวเองจะไม่มีอะไรก็ยังตั้งใจสรรหาของขวัญมาให้คุณครูจนได้ ถึงจะเป็นแค่มาร์ชเมลโลว์จากซีเรียลอาหารเช้าธรรมดา ๆ แต่เพราะว่ามีความตั้งใจของหนูอยู่เต็มเปี่ยมในนั้น มันเลยพิเศษที่สุดเลย
10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018
Sapparot - Dec 25, 201810 รูปยอดไลค์สูงสุดจาก Instagram ปี 2018 รวมแล้วมาจากคนดังระดับโลกเพียง 5 คนเท่านั้น โดยมีหนูน้อย Stromi ลูกสาว Kylie Jenner เรียกยอดไลค์กดหัวใจให้คุณแม่ได้อย่างดีเชียว
อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior
Sapparot - Dec 24, 2018Dior เผยโฉมแอคเซสซอรี่ชิ้นใหม่ Rose Céleste จี้กลมรูปพระอาทิตย์-พระจันทร์ งานแฮนด์เมดสุดปราณีตจากทองคำและเปลือกหอยมุก