ชาวเน็ตแชร์อุทาหรณ์ เตือนภัย “ดีท็อกซ์” เสี่ยงอันตราย มีสิทธิ์ตายได้

กลายเป็นประเด็นที่หลายคนกำลังถกเถียงกันอย่างมากมายถึงประโยชน์และโทษของการ “ดีท็อกซ์” หรือการล้างพิษลำไส้ โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2559 ได้มีการแชร์เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน หลังจากเข้าคอร์สล้างพิษปฏิบัติธรรมในกรุงเทพฯ ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวได้รับอนุญาตให้กินผลไม้ น้ำมะพร้าว น้ำใบย่านางเท่านั้น จนกระทั่งสามวันต่อมา เริ่มมีอาการปวดศีรษะและเจ็บหน้าอก แม่ชีก็กล่าวว่าร่างกายกำลังขับพิษออก พอเช้าวันรุ่งขึ้น อาการก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ยังคงไม่ยอมทานอะไรเช่นเดิม ก่อนขอตัวไปหลับพักผ่อนและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเพื่อนคนที่มาแชร์อุทาหรณ์นี้ ยืนยันว่าก่อนหน้าการเข้าคอร์สล้างพิษผู้เสียชีวิตเองก็มีสุขภาพแข็งแรงดี

ทั้งนี้ เพื่อนคนดังกล่าวยังระบุอีกด้วยว่า การล้างพิษหรือการทำดีท็อกซ์ มีอันตรายจากการขาดน้ำและการขาดแร่ธาตุโปรแตสเซียม ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและหัวใจวายได้ อย่างฉับพลัน พร้อมขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบหลักสูตรและผู้ที่สอนว่ามีคุณวุฒิและวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่เลิกการสอนแบบนี้ก่อนที่จะมีผู้เสียชีวิตไปมากกว่านี้
 

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา ประธานคณะอนุกรรมการวิชาการ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย เคยได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า การล้างพิษลำไส้ หรือดีท็อกซ์ ซึ่งเป็นศาสตร์หนึ่งของการแพทย์ทางเลือก กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งแม้ว่าวิธีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องผิด แต่การโหมโฆษณามากๆ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและรักษาด้วยวิธีดังกล่าวจนเกินความจำเป็น โดยการสวนลำไส้บ่อยๆ จะทำให้ลำไส้เกิดการบีบรัดตัวมากกว่าปกติและสูญเสียแบคทีเรียชนิดดีในกระเพาะอาหาร หากรุนแรง เสี่ยงทำให้ลำไส้ทะลุ นอกจากนี้ ในการล้างพิษลำไส้ เมื่อทำประมาณ 3 ครั้ง จะทำให้รู้สึกติดจนร่างกายไม่สามารถขับถ่ายได้เอง และต้องอาศัยการทำดีท็อกซ์ไปตลอด ซึ่งก็ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิต

ที่มา: มติชน