ตลาดเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า เป็นอะไรง่ายที่สุดและเห็นบ่อยมากที่สุดสำหรับหนุ่มสาววัยเริ่มธุรกิจ แต่ยิ่งง่ายก็ยิ่งมีคู่แข่งเยอะ นี่คือเหตุผลที่เราสนใจ “ZETTINO” แบรนด์กระเป๋าหนังสำหรับสุภาพบุรุษที่เริ่มต้นจากการขายออนไลน์เหมือนคนอื่นๆ แต่ขยับขยายจนมีช็อปหน้าร้านได้ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี

ใครหลายคนอาจคิดว่าการทำธุรกิจในยุคที่ทุกคนขายของได้ผ่านมือถือคงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ แต่หลังจากพูดคุยกัน เราพบว่าความฝันของพวกเขาไม่ได้มาง่ายๆ แถมยังยิ่งใหญ่กว่าที่คิดไว้อีกด้วย

ผืนหนังม้วนแรก

ZETTINO ชื่อแบรนด์ภาษาอิตาลีนี้มาจากคำว่า Bettino ที่แปลว่าความสุข เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนๆ น้องๆ รั้วจุฬาฯ ทั้งตั๋ง-โชติ จินดารัตนชลกิจ, บาส-พิชญ์ เล็กสกุล, บูม-ภัสมน สง่าเมือง, บิ้วท์-ธัญนันท์ อุดมดีพลังชัย และหญิง-พิมพ์ชนก กฤษฎาพิพัฒน์ ที่ทุกคนแม้จะทำงานประจำกันอยู่แต่ก็ฝันอยากมีธุรกิจเล็กๆ เหมือนกัน

เรื่องเริ่มต้นจากบาสเห็นว่าตลาดกระเป๋าผู้ชายในเมืองไทยยังมีไม่มาก หรือถ้าต้องการคุณภาพดีๆ ก็ต้องใช้ของแบรนด์เนมจากต่างประเทศที่ราคาสูงจนยากจะเอื้อม เลยเป็นที่มาของกระเป๋าหนังแท้ฝืมือคนไทยในราคาสมเหตุสมผล

“แรกสุดเราแค่อยากได้กระเป๋าอะไรก็ได้ที่ดีไซน์สวย ราคาไม่แพงมาก แต่พอศึกษาตลาดก็พบว่าถ้าทำกระเป๋าธรรมดาหรือใช้หนัง PU (หนังเทียม) โอกาสที่ธุรกิจจะยั่งยืนก็น้อยมาก เพราะคนก็อปปี้ได้ง่าย โรงงานผลิตหนังพวกนี้ก็เยอะ อีกอย่างคือผู้ชายจะให้ความสำคัญกับแมทีเรียลมากกว่าผู้หญิง ก็เลยคิดว่าใช้หนังแท้ไปเลยดีกว่า แล้วค่อยลงดีเทลว่ากระเป๋าแบบไหนผู้ชายชอบ ต้องใช้หนังประเภทไหน” บาสอธิบายเรื่องโพสิชั่นนิ่งของแบรนด์ในฐานะที่จบด้านบัญชีมาโดยตรง

จากไม่มีความรู้เรื่องกระเป๋าหรือหนัง แต่เมื่อออกไปเลือกซื้อหนังตามย่านเจริญรัถ พูดคุยกับคนขายถึงความแตกต่างของหนังแต่ละประเภท ช่วยกันออกแบบ ปรับทรงกระเป๋าจนได้ม็อกอัพแบบที่ต้องการส่งให้ช่างผลิต ก็ออกมาเป็นสินค้าเซ็ตแรกคือ Messenger Bag, Belt Bag คาดอกสุดเท่ห์ และกระเป๋าสตางค์ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว
 

หนังแท้ต้องเป็นธรรมชาติ

ล้มลุกคลุกผืนหนัง

หากทำธุรกิจแล้วไม่เจอปัญหาเลยก็คงเป็นเรื่องแปลก นอกจากเงินทุนเริ่มต้นที่ร่วมกันลงขันจะยังไม่มากแล้ว บาสเล่าว่าปัญหาใหญ่ๆ ในช่วงแรกเป็นเรื่องการผลิตจากช่าง เพราะ ZETTINO เน้นชิ้นงานที่คัตติ้งเนี้ยบ คุณภาพดี แต่เมื่อเป็นแบรนด์ขนาดเล็กเลยไม่สามารถจ้างโรงงานใหญ่ๆ ผลิตได้เพราะยังไม่มียอดสั่งขั้นต่ำ เมื่อใช้บริการช่างทั่วไปที่มืออาชีพน้อยกว่า หลายครั้งงานจึงผิดไปจากแบบที่กำหนดหรือส่งงานช้าบ้างจนต้องคอยตามแก้ปัญหาไปทีละเปลาะ

“ส่วนปัญหาเรื่องลูกค้าไม่ค่อยมี เพราะลูกค้าเราส่วนใหญ่น่ารักมาก และเราติดตามผลจากลูกค้าที่เคยซื้อไปว่าใช้แล้วเป็นอย่างไรบ้าง มีข้อแนะนำติชมอะไรเพื่อที่เราจะได้นำมาพัฒนาให้ดีขึ้น” บูมตอบถึงความใส่ใจเรื่องลูกค้าที่มั่นใจว่าแบรนด์อื่นไม่ทำกัน

จากออนไลน์สู่หน้าร้าน จากไทยสู่ต่างประเทศ

 

แม้การซื้อของออนไลน์จะสะดวกมากๆ แต่ก็ยังมีลูกค้าหลายคนที่อยากเห็นสินค้าจริงก่อนตัดสินใจ ยอดขายช่วงแรกของ ZETTINO เลยได้จากการออกบูทตามอีเว้นท์ต่างๆ เป็นหลัก

“แต่ช่วงนี้กระแส Flea Market มันเกลื่อน และคนเดินส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง บวกกับภาพลักษณ์และราคาของแบรนด์เราไม่ได้ถูก พอไปออกบูทที่เป็นอีเว้นท์ชั่วคราว คนที่ไม่รู้จักแบรนด์เรามาก่อนจะรู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูง เลยคิดกันว่าน่าจะขยับมามีออฟฟิศของตัวเองเลย เพราะเรา 3 คน (ตั๋ง บาส บูม) ก็ลาออกจากงานประจำกันหมดแล้ว” บูมเล่าถึงการขยับขยายครั้งสำคัญหลังจากตัดสินใจเช่าออฟฟิศไว้ทำงานในย่านเพลินจิต ส่วนพื้นที่ด้านหน้าก็ไว้โชว์สินค้าของร้าน ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีและน่าเชื่อถือกว่าเดิม

และอีกเหตุผลสำคัญของการเปิดออฟฟิศคือตั้งใจจะให้เป็น Flagship Store ของแบรนด์ก่อนไปลุยตลาดประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นความท้าทายถัดไปของพวกเขา

“ถ้าส่งไปที่สิงคโปร์ มาเลเซีย เราผลิตที่นี่บวกค่าส่งไปก็ยังได้ราคาที่ถูกของเขา แต่กับตลาดกัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ก็อาจต้องดูว่าเราจะไปหาแหล่งผลิตที่นู่นได้ไหม ถ้าทำได้ก็จะขยายแบรนด์เราไปประเทศเขาได้โดยมีราคาเหมาะสม ซึ่งเราก็ต้องไปศึกษาว่าแบรนดใหญ่ๆ ที่เขาส่งกันหลายประเทศเขาจัดการเรื่องนี้กันยังไง” ตั๋งเป็นตัวแทนเล่าถึงแพลนในอนาคตที่เราฟังแล้วยังแอบตื่นเต้นตาม
 

ธุรกิจที่ใส่ใจทุกคน

นับจากเปิดแบรนด์เมื่อเดือนเมษายน 2557 ZETTINO ถือว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนเราแอบสงสัยไม่ได้ว่าอะไรทำให้พวกเขากล้าลงทุนในระดับเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

“เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าในอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า เราอยากเป็นบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ทุกคนแฮปปี้กันหมด ลูกค้าได้สินค้าดีที่สุดที่เราเตรียมให้ เราก็ไม่ได้กดซัพพลายเออร์ ในขณะเดียวกัน พนักงานก็ไม่ได้ต้องมาทำงานกับเราเพราะไม่มีทางเลือก แต่เราอยากให้เป็นคนเก่งที่มาทำงานกับเรา และเราจะทรีทเขาดี มีสวัสดิการที่ดี เราจะเป็นท้อปช้อยส์สำหรับคนที่มีความฝัน นั่นเลยย้อนกลับมาว่าทำไมตอนนี้เราถึงต้องเร่งทำ เพราะถ้าเราเริ่มช้า โอกาสที่จะไปถึงอนาคตที่ตั้งไว้ก็ยิ่งยาก” บาสบอกว่าเป้าหมายนี้เกิดจากความไม่เข้าใจว่าทำไมโลกธุรกิจถึงต้องวัดความสำเร็จกันที่เงิน จนนำมาสู่การฟาดฟันและกดขี่อีกฝ่าย

“เราเป็นพันธมิตรกันได้” บาสย้ำกับเราแล้วออกตัวว่ามันอาจจะฟังดูเว่อร์และค่อนข้างเสี่ยง แต่เรารู้ดีว่าความมุ่งมั่นของพวกเขาน่าจะไปถึงจุดนั้นได้ไม่ไกล

FIND IT:
ZETTINO
888 อาคารมหาทุนพลาซ่า (BTS เพลินจิต)
11.00 น. – 19.00 น. (วันอังคาร – เสาร์)
088-9505564

Upstarts: ล้วงเคล็ดลับความสำเร็จของแบรนด์ธุรกิจอินเทรนด์ ชวนกระตุกไอเดียต่อยอดอีกมากมาย
มีธุรกิจใดน่าสนใจไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ส่งมาบอกเราได้ที่ [email protected]