New Release: พูดคุยกับหนุ่ม “แบงค์-ธิติ” ในวันที่ฮอร์โมนส์มีไฟแรงเฟร่อ

July 12, 2018
1311 Views

เรียกได้ว่าไม่ให้หยุดพักกันเลยสำหรับค่ายหนังอารมณ์ดี GTH ที่แม้กระแส #ไปต่อค่ะพี่สุชาติ ของภาพยนตร์โดนใจคนวัยทำงานแห่งยุคนี้อย่าง ‘ฟรีแลนซ์…ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ’ ยังไม่ทันจะลาโรง ก็เปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ต่อทันที คราวนี้มาสไตล์โรแมนติกขำอะดี้ในชื่อเรื่องแปลกหู “เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ” ผลงานของผู้กำกับหมู-ชยนพ บุญประกอบ

ส่วนอีกกระแสที่มาแรงไม่แพ้กันก็ส่งมาจากนาดาวบางกอก เพื่อนบ้านร่วมซอยสวัสดี ที่ได้ฤกษ์เปิดภาคการศึกษาใหม่ของ “Hormones The Series 3” ขนทัพนักแสดงวัยรุ่นกว่า 20 ชีวิตมาถ่ายทอดเรื่องราวของวัยมัธยมที่เต็มไปด้วยบาดแผล ส่งท้ายซีรี่ส์ที่สร้างปรากฏการณ์ฮอร์โมนส์ฟีเว่อร์ในไทยมากว่า 2 ปี

เราดึงตัวหนุ่มแบงค์-ธิติ มหาโยธารักษ์ หนึ่งในนักแสดงนำของทั้ง 2 เรื่องมาพูดคุยกันถึง 2 บทบาทที่เขาได้รับซึ่งแตกต่างกันสุดขั้ว และการเติบโตของเด็กหนุ่มในฐานะนักแสดงวัยรุ่นที่น่าจับตามอง

วัยที่ฮอร์โมนส์ยังพลุ่งพล่าน และมีไฟรักการแสดงที่แรงเฟร่อ

เล่าถึงบทบาทของ ‘นน’ ในฮอร์โมนส์ซีซั่นนี้หน่อยว่าจะเติบโตจากภาคก่อนยังไงบ้าง

อย่างแรกเลยคือจะมีการพัฒนาเส้นเรื่องของนน เพราะซีซั่นที่แล้ว นนโผล่มาแค่ซัพพอร์ตเมน เรายังไม่เคยรู้เลยว่าเวลานนอยู่กับเพื่อนเป็นคนยังไง หรือความคิดจริงๆ ของนนเป็นยังไง คนอาจจะติดภาพนนตอนแค่อยู่กับพี่ธีร์ (ตั้ว-เสฏฐวุฒิ อนุสิทธิ์) นนเป็นแค่คนที่อ่อยผู้ชายหรือว่าแค่ต้องการพี่ชายหรือเปล่า พอมาซีซั่น 3 เราก็จะเห็นนนอีกแบบว่าอยากมีความสัมพันธ์ยังไงกับคนที่มันสบายใจและอยากอยู่ด้วย ซึ่งพอมีเส้นเรื่องตรงนี้ ความคิด การกระทำของนนก็จะโตขึ้น มีรายละเอียดมากกว่าเดิม    

ทีมเขียนบทซีรี่ส์บอกว่าหลายๆ คาแรคเตอร์ในซีซั่นนี้ได้มาจากการพูดคุยกับนักแสดง แสดงว่านนก็มีความเป็นแบงค์อยู่เหมือนกัน

ใช่ๆ มันอาจไม่ใช่เรื่องที่นนไปเจอ แต่จะเป็นลักษณะนิสัยมากกว่าอย่างความเป็นอยู่หรือความรู้สึกเวลาอยู่กับคนอื่น นนจะเป็นคนที่แคร์คนรอบข้าง เป็นห่วงคนรอบข้าง ร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย ซึ่งมันก็เป็นตัวแบงค์เหมือนกัน

พอได้รับบทที่มีมิติมากขึ้น แบงค์ศึกษาหรือทำความเข้าใจตัวบทยังไงบ้าง

ก่อนเปิดกล้องจะมีการอ่านบทร่วมกันก่อน ถ้าเราไม่เข้าใจตรงไหนก็จะถามผู้กำกับว่าทำไมตัวละครถึงทำอย่างนี้ และซีซั่นนี้ก็ได้เล่นร่วมกับเพื่อนๆ หลายคน ก็จะมีเวิร์คชอปหรือศึกษาบทร่วมกัน แต่จริงๆ พวกเราก็สนิทกันเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว เรื่องเคมีต่างๆ เลยไม่ต้องมาจูนใหม่เท่าไหร่ ยกเว้นคนที่เข้ามาใหม่เลยอย่างนน (ชานน สันตินธรกุล) ที่รับบทเป็นเน็ท ก็ต้องมาพูดคุยหรือเปิดใจคุยกันด้วย

แบงค์คิดว่าบาดแผลสำคัญของชีวิตเด็กมัธยมน่าจะเป็นอะไร

ผมว่าถ้าเป็นเด็กผู้ชายน่าจะเป็นเรื่องการทะเลาะวิวาท เพราะยังอยู่ในวัยที่คึกคะนอง ใครมาทำเพื่อนเรา เราก็ไม่ยอม ต้องไปเอาคืน เป็นวงจรที่ไม่จบไม่สิ้น แต่พอเราโตขึ้นและมองย้อนกลับไปก็จะรู้สึกว่ามันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปเลย เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำในตอนนั้น เรามีเรื่องชกต่อย พ่อแม่ก็เสียใจ ผมเลยคิดว่ามันน่าจะเป็นบาดแผลของเด็กผู้ชายนะ

คาแรคเตอร์ ‘ป๋อง’ ในเรื่องเมย์ไหนไฟแรงเฟร่อบ้าง ค่อนข้างต่างกับ ‘นน’ มากเลย พอต้องรับสองบทบาทนี้มันมีความยากง่ายต่างกันยังไง

ยากครับ ผมคิดว่ามันยากมากในตอนแรก เพราะตอนที่เรารับบทนนก็แสดงพูดคุยปกติธรรมดา เล่นแบบเรียลๆ อิงจากชิวิตจริง แต่พอเป็นป๋อง แอคชั่นอะไรจะต้องเล่นเป็นการ์ตูนมากขึ้น การโฮลด์ลมหายใจ การเล่นให้ชัด ในจังหวะคอเมดี้ซึ่งผมไม่เคยเล่นมาก่อนเลย เราก็ต้องไปศึกษาอะไรหลายๆ อย่างทำให้มันเป็นธรรมชาติของเรา ไม่ใช่เล่นใหญ่แต่ผิดธรรมชาติ พอต้องแอคชั่นให้ใหญ่ขึ้น เราก็ต้องทำความรู้สึกของเราให้ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย

ส่วนเรื่องคาแรคเตอร์ตัวละครก็ต่างกันมากเลย นนในซีซั่นสามจะมีตัวตน คนรู้จักกันทั้งโรงเรียนเพราะลงรับสมัครประธานนักเรียนด้วย นนมั่นใจในตัวเอง ในขณะที่ป๋องจะค่อนข้าง loser ไม่มั่นใจในตัวเอง เวลาจะทำอะไรก็ชอบคิดว่าตัวเองทำได้ไม่ดีหรอก ไม่กล้า แต่ถ้าเป็นนนก็ เออ! เอาวะ ลองดูสักตั้ง มันก็คนละขั้วกันเลย แต่ตอนแสดง เราแค่เชื่อในตัวละครนั้นๆ ครับ

ระหว่าง ‘นน’ กับ ‘ป๋อง’ ตัวตนของแบงค์จะใกล้เคียงกับใครมากกว่า

ถ้าใกล้เคียงก็ต้องเป็นนนอยู่แล้ว อย่างถ้าเทียบฐานันดรผมในโรงเรียน ผมน่าจะเป็นแก๊งค์นักกีฬา คือมีคนรู้จัก เกาะกลุ่มกับเพื่อนเยอะๆ เหมือนนน แต่ทั้งสองตัวละครก็มีความเป็นผมเหมือนกัน บางมุมผมก็มีความเป็น loser เหมือนป๋องนะ

มุม Loser ของแบงค์คืออะไรล่ะ

เออนั่นดิ (หัวเราะ) ผมชอบโดนบอกว่าเป็น loser เพราะพี่ๆ เขาชอบแกล้งผม อาจเป็นเพราะผมสนิทกับพวกพี่มาร์ช พี่ต่อ พี่ท็อป พี่อัด เขาเป็นรุ่นพี่แล้วผมเด็กสุด ก็แกล้งๆ งอนเขาเล่น เราไม่ได้งอนพี่เขาจริงๆ

‘ป๋อง’ เป็นตัวละครที่เขียนมาจากชีวิตของพี่หมู ผู้กำกับ แบงค์ได้พูดคุยอะไรกับพี่หมูบ้างเพื่อเข้าถึงตัวละครตัวนี้

ตอนแรกผมก็ถามว่ามันจะรู้สึกยังไงพี่เวลาเราวาดการ์ตูนลงไดอารี่ เพราะตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าพี่หมูเขาทำแบบนี้ตอนสมัยเรียนจริงๆ พี่หมูก็เลยเล่าชีวิตของเขาให้ฟัง ผมก็เห็นภาพมากขึ้น เข้าใจความรู้สึก แล้วก็อินไปกับเขาด้วย ตัวละครนี้มีความเป็นพี่หมูเยอะ เพราะแต่ก่อนพี่หมูก็ไม่กล้าเข้าไปคุยกับคนที่แอบชอบเหมือนกัน

สไตล์การทำงานกับพี่หมูและพี่ปิง (เกรียงไกร วชิรธรรมพร ผู้กำกับซีรี่ส์ฮอร์โมนส์) ต่างกันยังไง

สไตล์พี่หมูเขาจะไม่โหด จะพยายามอธิบายจนกว่าเราจะเข้าใจหรือทำให้เห็นภาพ อย่างซีนที่ต้องโดนไฟช็อต เขาก็จะทำให้ดูก่อน แล้วถามเราว่ามันจะเป็นประมาณนี้เปล่าวะ เราจะแชร์ความรู้สึกกันว่าคิดเห็นเหมือนกันไหม เวลาตัวละครล้ม เราเจ็บตรงนี้เหมือนกันรึเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ช่วยกันปรับ คือพี่หมูจะมีภาพในหัวของเขาชัดมากแต่ไม่ได้จำกัดว่าเราต้องเป็นอย่างนั้นเป๊ะๆ ก็พยายามผสมผสานป๋องกับผมให้เป็นคนเดียวกัน ตัวละครก็จะมีเสน่ห์มากกว่า

ส่วนพี่ปิงก็จะมีภาพชัดเหมือนกัน เขาเป็นคนเก่งมาก เขาจะอธิบายให้เราเข้าใจเหมือนกันแต่พูดให้เราลองไปคิดดู ว่าถ้าเกิดว่าตัวเราไปเจอเหตุการณ์แบบนี้มา ตัวเราจะทำยังไง จะรู้สึกยังไง

ตอนนี้ตอบได้หรือยังว่าชอบอะไรในการแสดง และได้เรียนรู้อะไรบ้างจากวงการบันเทิงใน 1 ปีที่ผ่านมา

ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนที่ชอบการแสดงมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว เพราะผมชอบดูหนังมาก แต่ไม่ได้ดูแล้วจำชื่อผู้กำกับหรือนักแสดง แต่ชอบดูแอคติ้งในการแสดงมากกว่า ผมอยากลองดูว่าจะเป็นยังไงถ้าเราได้ลองเรียนการแสดงจริงๆ

พอได้มีโอกาสเข้ามา ผมรู้สึกว่าได้เรียนรู้หลายอย่างมาก และมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิดเลย ไม่ได้เหมือนเราโกหกแม่ว่าเราจะทำการบ้านต่อที่โรงเรียนนะ แต่ที่จริงเราไปเล่นเกม อันนั้นมันเบสิกมาก ทุกคนทำได้อยู่แล้ว แต่การแสดงคือเราต้องรับบทเป็นอีกคนนึงที่ไม่ใช่เรา ทำให้ผมรู้ว่าผมต้องพัฒนาอีกเยอะมากต้องเรียนรู้เรื่องการแสดงอีกเยอะมากๆ มันไม่มีที่สิ้นสุด เพราะของพวกนี้คือการฝึกสัญชาตญาณตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อจะเล่นคาแรคเตอร์นั้นๆ ให้เป็นธรรมชาติได้

โอกาสทางการแสดงให้และเอาอะไรไปจากชีวิตวัยรุ่นของแบงค์บ้าง

ผมว่ามันให้มากกว่า คือแน่นอนว่าพอมาทำตรงนี้เราก็ไม่ค่อยได้เจอเพื่อน เวลาส่วนตัวของเราก็น้อยลง แต่ว่าก็ให้อะไรเยอะมาก แต่ก่อนผมไม่ได้เป็นคนตรงต่อเวลาเลย พอเข้ามาในวงการ การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดแล้วในการทำงาน เรื่องความรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะตอนนั้นผมยังอยู่ขอนแก่นก็ต้องบินไปบินกลับ เราทั้งเรียนทั้งทำงาน ถ้าเราท้อหรือเหนื่อย เลือกที่จะทิ้งสักอย่างไปมันก็พัง เราต้องสามารถประคับประคอง และรับผิดชอบทั้งสองอย่างให้ไปรอดด้วยกัน ในเมื่อเราเลือกที่จะมาอยู่จุดนี้ด้วยตัวเอง

 

ติดตามการแสดงของแบงค์-ธิติและเพื่อนนักแสดงได้ใน Hormones The Series 3 ออกอากาศทุกวันเสาร์ทางช่อง One และ GTH On Air เวลา 22.30 น. เริ่ม 19 กันยายน ส่วนภาพยนตร์เรื่องเมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ เข้าฉายทุกโรงภาพยนตร์ 1 ตุลาคมนี้
 

NEW RELEASE: พูดคุยกับศิลปินที่มีผลงานใหม่น่าจับตามอง สำรวจความคิดเบื้องหลังและทัศนคติดีๆ ที่จะเปลี่ยนมุมมองบางอย่างกับคุณ
มีใครน่าสนใจหรืออยากให้สัมภาษณ์ใคร ส่งมาบอกเราได้ที่ [email protected]


Tell us what you think!

You may be interested

คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้
AROUND THE WORLD
shares6090 views
AROUND THE WORLD
shares6090 views

คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้

Sapparot - Dec 26, 2018

คุณครูชั้นประถมในสหรัฐฯ อวดของขวัญชิ้นโดนใจที่ได้รับในช่วงเทศกาลแห่งความสุขจากลูกศิษย์ตัวน้อยที่แม้ตัวเองจะไม่มีอะไรก็ยังตั้งใจสรรหาของขวัญมาให้คุณครูจนได้ ถึงจะเป็นแค่มาร์ชเมลโลว์จากซีเรียลอาหารเช้าธรรมดา ๆ แต่เพราะว่ามีความตั้งใจของหนูอยู่เต็มเปี่ยมในนั้น มันเลยพิเศษที่สุดเลย

10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018
LIFESTYLE
shares5316 views
LIFESTYLE
shares5316 views

10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018

Sapparot - Dec 25, 2018

10 รูปยอดไลค์สูงสุดจาก Instagram ปี 2018 รวมแล้วมาจากคนดังระดับโลกเพียง 5 คนเท่านั้น โดยมีหนูน้อย Stromi ลูกสาว Kylie Jenner เรียกยอดไลค์กดหัวใจให้คุณแม่ได้อย่างดีเชียว

อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior
Accesseries
shares4711 views
Accesseries
shares4711 views

อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior

Sapparot - Dec 24, 2018

Dior เผยโฉมแอคเซสซอรี่ชิ้นใหม่ Rose Céleste จี้กลมรูปพระอาทิตย์-พระจันทร์ งานแฮนด์เมดสุดปราณีตจากทองคำและเปลือกหอยมุก