หรอยแซ่บลำ: “เสรี” อาหารไทยรสชาววังย่านแพร่งภูธร

บางครั้งเราไม่ได้ต้องการตัวเลือกมากนัก โดยเฉพาะเวลาหิว

นักจิตวิทยาบอกไว้ว่า การมีตัวเลือกเยอะเกินไปอาจนำไปสู่ความเครียดหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ ซึ่งเราพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่าเป็นความจริง หลังตระเวนหาร้านอาหารไทยอร่อยๆ สักร้านในย่านพระนครอยู่นานสองนานเพื่อฝากท้องตอนเที่ยง

แต่ยิ่งเวียนหากลับยิ่งเวียนหัว ตัวเลือกร้านอาหารไทยดั้งเดิมนับร้อยในย่านนี้ทำให้ความสามารถในการตัดสินใจของเราลดลงอย่างน่าเป็นห่วง แปรผกผันกับระดับความเครียดและความ (โมโห) หิวที่กำลังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง

เราลัดเลาะรอบเกาะรัตนโกสินทร์​มาเรื่อยๆ จากถนนราชดำเนิน เข้าถนนดินสอ จนมาโผล่ที่ย่านสามแพร่ง ก่อนระดับความเครียดจะเล่นงานหนักขึ้น เราก็สะดุดเข้ากับร้านอาหารในห้องแถวโบราณ 2 ชั้นเล็กๆ ร้านหนึ่งบนถนนแพร่งภูธร ที่แม้จะเป็นร้านธรรมดา (ออกไปทางมอซอด้วยซ้ำ) แต่เราก็ตัดสินใจเลือกเข้าร้านนี้ด้วยเชื่อใจในป้ายชื่อร้านสีทอง สลักตัวอักษรสีแดงว่า “เสรี”

อรณิชา พ่วงระยับ เจ้าของร้านเล่าให้เราฟังว่าร้านเสรีนี้เป็นที่ฝากท้องประจำของเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหมที่อยู่ใกล้ๆ ได้ฟังแค่นี้ก็ทำให้มั่นใจได้แล้วว่าเราคิดไม่ผิด

“เสรี” อยู่คู่ย่านสามแพร่งมากว่า 18 ปีแล้ว ชื่อร้านตั้งตามชื่อสามีของอรณิชา ซึ่งเคยเป็นกุ๊กอยู่ที่ร้านโภชน์สภาคาร (กุ๊กสมเด็จ) อยู่นานหลายสิบปี หลังจากที่เจ้าของร้านโภชน์สภาคารคนก่อนเสียชีวิตลง เธอและเสรีจึงตัดสินใจออกมาเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ของพวกเขาเอง
 

อรณิชาบอกว่าสูตรของทางร้านเป็นสูตรอาหารไทยดั้งเดิมที่เธอและเสรีเรียนรู้จากอดีตกุ๊กในวังกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ขณะเป็นลูกมืออยู่ที่โภชน์สภาคาร แม้จะปรับรสชาติให้จัดขึ้นบ้าง แต่ก็เรียกได้ว่าเป็น “สูตรโบราณ” อย่างเต็มปาก และเมนูทุกอย่างก็ทานง่ายถูกปากทุกเพศทุกวัย

เมนูแรกที่เราได้ลองและติดใจทันทีคือ กุ้งชีแฮ้ทอดกระเทียมพริกไทย (80 บาท) ซึ่งทางร้านใช้กุ้งชีแฮ้เนื้อหวานตัวพอดีคำ ทอดพอสุก โรยหน้าด้วยกระเทียมทอดในปริมาณที่สะใจคนชอบกระเทียม ปรุงรสให้หอมพริกไทย มีรสเค็มกำลังดีจนทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ได้โดยไม่ต้องง้อน้ำปลา

อีกหนึ่งจานดังคือหมี่กรอบ (80 บาท) ราดน้ำซอสรสหวานปนเค็มสูตรโบราณที่ได้จากการเคี่ยวน้ำส้มสายชู น้ำตาล และเต้าเจี้ยวเข้าด้วยกัน ผัดเข้ากับหมูสับ กุ้ง หอมแดง และเต้าหู้ ก่อนเสิร์ฟพร้อมกระเทียมดอง ถั่วงอก ใบกุยช่าย พริกชี้ฟ้าซอย และมะนาว
 

เมนูอื่นๆ ที่น่าลองก็อย่างเช่นปลากระพงทอดน้ำปลา (ราคาตามขนาด) เนื้อกรอบนอกนุ่มใน ราดน้ำเค็มๆ มันๆ เสิร์ฟคู่กับน้ำยำมะม่วง 3 รส, ต้มยำน้ำใสรวมมิตรทะเล (80-160 บาท) รสเปรี้ยวสดชื่น ซดคล่องคอ, ปลาตะเพียนไร้ก้าง (ราคาตามขนาด), แกงส้มแป๊ะซะ (80-160 บาท), ชุดน้ำพริกกะปิ-ผักลวก (60 บาท) และหอยจ๊อ (80 บาท)

อาหารทุกจานที่นี่ผ่านมือเสรีและอรณิชาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่โขลกเครื่องแกง เคี่ยวน้ำซอส ไปจนถึงเครื่องปรุงต่างๆ ที่ใช้ก็ต้องเลือกวัตถุดิบของแท้ที่มีคุณภาพเท่านั้น เพื่อให้ได้รสที่ “ถึงเครื่อง” และถูกปากถูกใจลูกค้า ที่สำคัญคือราคาเป็นมิตร

“เราขายไม่แพง เราใช้วัสดุที่ดี คงที่ ใช้แต่ของแท้เท่านั้น มะนาวก็ใช้มะนาวจริง ช่วงมะนาวแพงก็ต้องยอม เพราะเราปรุงด้วยของปลอมไม่เป็น ขอแค่สุดท้ายอยู่ได้ก็พอ” อรณิชาบอกกับเรา

หลังมื้อนี้ เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านเสรีถึงอยู่คู่ย่านสามแพร่งมาได้เกือบ 2 ทศวรรษ รสชาติจัดจ้านถูกปาก และราคาเป็นมิตรถูกใจคงทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะเวลาที่ต้องเจอกับ “ภาวะตัวเลือกล้น” ในย่านพระนครอีกครั้ง

FIND IT:
ร้านอาหารเสรี
87 ถ.แพร่งภูธร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
02-223-8416
เปิดทุกวัน 10.00 – 22.00 น.
 

หรอยแซ่บลำ: สำรวจร้านอาหารหน้าตาธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดา เรียนรู้เคล็ดลับความอร่อยที่ทำนักชิมติดอกติดใจมาถึงทุกวันนี้
ไปชิมร้านไหนแล้วอร่อย ส่งมาบอกเราได้ที่ [email protected]