วัฒนธรรมใหม่โลกโซเชียล!? แชร์เฟซ-ดูรูปคนตาย แล้วค่อย “ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู”

ปรากฏการณ์ “ขออโหสิกรรมที่เข้าดู” ในโลกโซเชียล เกิดขึ้นให้เห็นหลังเหตุการณ์สาวตกแอร์พอร์ทลิงค์ดับ เมื่อปรากฎว่ามีบุคคลบางรายนำเฟซบุ๊กผู้ตายไปแจกให้คนเข้ามาดู ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งก็พากันกดเข้าไปส่องรูปและโพสต์ต่าง ๆ ที่ผู้ตายเคยโพสต์ ไว้ ก่อนจะทิ้งคอมเมนต์ไว้ด้วยวลีว่า “ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู”

วลี “ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู” ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในโลกโซเชียลเป็นครั้งแรก เท่าที่ลองสืบค้นดูจากเฉพาะในเฟซบุ๊กพบว่ามันถูกใช้กันมาแล้วหลายครั้งหลายคราว และต้นเหตุไม่พ้นมาจากการเข้าไปดูรูปผู้ตายที่เหตุการณ์เสียชีวิตกลายเป็นที่พูดถึงในข่าว ตลอดจนเหยื่ออุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เฟซบุ๊กกู้ภัยหรือคนที่อาสาทำงานกู้ภัยมักโพสต์ให้เห็นกัน โดยจุดประสงค์ที่ว่าเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์

ขณะบางกรณีก็มาเป็นคลิปการเก็บกู้ร่างผู้ตายในสภาพชวนสยดสยอง ก็ยังอุตส่าห์โพสต์แล้วจั่วหัวว่าขออโหสิกรรมที่เอามาโพสต์เสียอย่างนั้น… ดูแล้วก็ไม่ค่อยจะเข้าใจว่าผู้โพสต์มีจุดประสงค์ใดกับการเอาภาพคนขณะตายมาเผยแพร่เช่นนี้ เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ หรือ เรียกไลค์กันแน่ ??

– เหตุใดจึงต้อง “ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู”

ที่จริงแล้วนั้น อโหสิกรรม เป็นคำที่ใช้เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมีกรรมใด ๆ ไว้ต่อกัน ไม่ว่าจะกายกรรม วจีกรรม หรือมโนกรรม เมื่อได้ “อโหสิกรรม” ต่อกัน ก็เท่ากับขอโทษและให้อภัยต่อทุกสิ่งที่เคยกระทำต่อกัน ไม่ถือแค้นโกรธเคืองให้ขุ่นข้องหมองใจต่อกันอีก จึงเป็นคำที่ได้ยินบ่อย ๆ ทั้งจากงานอัปมงคลอย่างงานศพ ตลอดจนงานมงคลอย่างงานบวชด้วย

เมื่อกลายมาเป็นวลีว่า “ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู” นั้นจึงฟังแปลกหู และดูจะเป็นการใช้ที่คลาดเคลื่อนไปจากความหมายจริงของคำ แต่หากจะพยายามทำความเข้าใจ ผู้แสดงความเห็นคงพยายามสื่อว่า “ขอโทษที่เข้ามาดู”(คุณในสภาพแบบนี้) ดังหลายความเห็นจากโพสต์ของจ่าแอดมินเพจ Drama Addict ที่ช่วยอธิบายว่า พอเข้ามาดูเฟซบุ๊กหรือรูปของเขาแล้ว กลัวจะเป็นการรบกวนหรือทำให้ผู้ตายจะไม่พอใจ กลัวตัวเองบาป ขอโทษที่ไปยุ่มย่ามในพื้นที่หรือเรื่องของเขา จึงต้องขอโทษที่เข้ามาดู

– คนเป็นต่างหากที่ถูกรบกวน!

แม้ผู้ใช้ประโยคนี้อาจไม่มีเจตนาร้าย และยังแสดงความเกรงอกเกรงใจกลัวจะทำให้ผู้ที่จากไปไม่พอใจเสียด้วยซ้ำ แต่คนที่น่าจะถูกรบกวนและไม่พอใจมากที่สุดดูท่าไม่น่าจะใช่ผู้ล่วงลับ แต่เป็นครอบครัวญาติพี่น้องของเขาที่ยังอยู่ต่างหาก

ในกรณีของสาวที่ตกแอร์พอร์ทลิงค์ดับ สำหรับคนในครอบครัวของเธอ การเข้าไปดูเฟซบุ๊กที่เปรียบเหมือนสิ่งที่เหลือทิ้งไว้ต่างหน้าแล้วต้องเห็นข้อความขออโหสิกรรมแบบไม่รู้ที่มาที่ไปจากใครต่อใครที่ไม่รู้จักคงชวนสะเทือนใจไม่เบา ยิ่งเหตุการณ์ยังสดใหม่ก็ยิ่งรบกวนจิตใจให้ทำใจยากขึ้นไปอีก คนนอกควรต้องเว้นพื้นที่ส่วนตัวให้กับครอบครัวผู้ตายบ้าง

และยิ่งเป็นการไปขออโหสิกรรมใต้คลิปหรือภาพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุต่าง ๆ คิดดูเอาเถิดว่าหากคนในครอบครัวผู้ตายมาเห็นเข้าเขาจะรู้สึกอย่างไร ที่มีการเอาภาพศพคนที่เขารักมาเผยแพร่ไม่ปิดบัง และยังมีคนมาลงความเห็น “ขออโหสิกรรม” ให้ได้รับรู้ว่าใครไม่รู้นักต่อนักได้เข้ามารู้มาเห็นคนที่เขารักในสภาพแบบนั้น

ที่สุดแล้วไม่ว่าวัฒนธรรม “ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู” จะเกิดขึ้นมาจากไหน มันก็ไม่ควรจะได้รับการสานต่อให้เกิดขึ้นซ้ำซากอีกต่อไป แต่หากใครอ่านแล้วไม่ถูกใจ ก็ต้องขออโหสิกรรมที่เขียนขึ้นมาด้วย ณ ที่นี้…