ดราม่า #คนอะไรเป็นแฟนหมี และมุมมองชาวเน็ตต่อ “โรคซึมเศร้า”

ดราม่า #คนอะไรเป็นแฟนหมี หญิงสาวที่มาของคาแรคเตอร์หมี จากเพจคนอะไรเป็นแฟนหมี โพสต์โซเชียลประกาศหาทางติดต่อคนเขียนซึ่งเป็นอดีตแฟน ตัดพ้อเรื่องป่วยซึมเศร้า-ขอของรักคืน กับนานาทัศนะของชาวเน็ตและความตื่นตัวเรื่องโรคซึมเศร้า

หลายคนอาจเคยเห็นการ์ตูนลายเส้นง่าย ๆ น่ารัก ๆ จากเพจคนอะไรเป็นแฟนหมีผ่านหูผ่านมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักแฟนหนุ่มและหมีสาวกับความแสนง้อแสนงอนของทั้งคู่ จากกระแสที่เคยถูกพูดถึงเพราะเป็นเรื่องราวโดนใจ ล่าสุดกลับกลายเป็นประเด็นดราม่าจนเกิดแฮชแท็ก #คนอะไรเป็นแฟนหมี  ไปแล้ว หลัง “ดรีม” อดีตแฟน ได้ออกตั้งกระทู้ในพันทิป ประกาศหาทางติดต่อ “บอมบ์” ผู้เขียนและเจ้าของเพจ เพื่อต้องการเคลียร์ และยังบอกว่าเธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ แต่กลับไม่มาสนใจเธอเลย

งานนี้บอกเลยว่าในช่วงแรกนั้นกระแสจากชาวพันทิปที่เข้ามาคอมเมนต์ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งติติง ประชดประชัน รวมถึงให้กำลังใจ เข้าอกเข้าใจ ซึ่งในที่สุดจึงมีการชูประเด็น “โรคซึมเศร้า” ขึ้นมา อันคาดว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้เจ้าของกระทู้ออกมาโพสต์ข้อความเช่นนี้ (จากคำชี้แจงในความเห็น 166 เพื่อนใกล้ชิดของคุณดรีมชี้แจงว่าเจ้าตัวโพสต์ข้อความขณะกำลังอยู่ในภาวะ depressed พิมพ์ไปร้องไห้ไป )

อย่างไรก็ตามในเวลาไม่กี่ชั่วโมง กระทู้นี้ก็กลายเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลทั้งในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ยิ่งทำให้ได้เห็นทัศนะหลากหลากที่ผู้คนมีต่อโรคซึมเศร้า บ้างจากมุมมองของคนนอก บ้างจากมุมมองของหมอ บ้างก็จากมุมมองผู้อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าโดยตรง และบ้างก็จากตัวผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเอง

แม้กระแสจะมีทั้งบวกและลบปะปนกันมา แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนจากดราม่า #คนอะไรเป็นแฟนหมี ครั้งนี้ก็คือ “คนส่วนใหญ่” มีความตื่นตัวกับโรคนี้มากขึ้น ยิ่งกลุ่มคนที่ไม่เคยรู้จักหรือแค่รู้จักแต่ไม่เข้าใจ ได้พยายามทำความเข้าใจกับโรคซึมเศร้ามากขึ้น รับรู้ว่าโรคนี้คืออาการเจ็บป่วยทางจิตใจ ที่ส่งผลออกมาถึงอารมณ์และการกระทำ และต้องรักษาอย่างถูกต้องด้วยการพบแพทย์ ต้องทานยา ซึ่งในขณะเดียวกัน “ความเข้าใจ” จากคนรอบข้างก็มีความสำคัญต่อผู้ป่วยด้วยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย

ที่มา: pantip.com