Hot Spot: Sweet Circle กับความคิดสร้างสรรค์ที่นำเสนอผ่านบัวลอยลูกโตหลากสีหลายไส้

หากพูดถึงบัวลอยไส้งาดำลูกโต ภาพแรกที่ลอยเข้าหัวเราคือภาพรถเข็นบัวลอยน้ำขิงรสเผ็ดคันเก่าของอาแปะอาซิ้มตามตลาดนัดทั่วไป วันนี้เราได้เจอร้านบัวลอยของคนรุ่นใหม่ที่นำเสนอขนมทรงกลมในรูปแบบที่แตกต่าง อัดแน่นไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความสนุก แต่ก็ยังคงขั้นตอนการทำแบบดั้งเดิมที่สุดแสนพิถีพิถันเอาไว้ได้

Sweet Circle เป็นร้านขนมหวานครบวงจรในโครงการสวนหลวงสแควร์ซอยจุฬาฯ 5 ที่หยิบเอามรดกสูตรบัวลอยน้ำขิงของที่บ้านมาต่อยอดจนตอนนี้กลายเป็นร้านที่มีลูกค้าแน่นที่สุดในโครงการ จุดเด่นของร้านอยู่ตรงบัวลอยลูกใหญ่สีสันสดใสและมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ทานคู่กับน้ำสูตรต่างๆ ที่ทางร้านตั้งใจคิดขึ้นโดยเฉพาะ

คุณจูน-มัทนี บุญประเสริฐ หนึ่งในเจ้าของร้าน Sweet Circle เล่าว่าเธอเป็นลูกหลานของร้านชูจิตบัวลอยน้ำขิงบนถนนเยาวราชที่ขายเมนูดั้งเดิมทั่วไปอย่างบัวลอยงาดำน้ำขิง เต้าฮวยน้ำขิง และรังนกแปะก๊วย หลังจากได้ร้านในโครงการสวนหลวง เธอกับพี่น้องได้ตัดสินใจสร้าง Sweet Circle ขึ้น พร้อมคิดค้นเมนูขึ้นใหม่มากมายเพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น

“จริงๆ แม่เขาก็ไม่อยากให้เรามาทำตรงนี้ เพราะเขารู้ว่ามันเหนื่อย อยากให้เราเรียนจบแล้วก็ไปทำงานอย่างอื่นที่อื่น แต่เราคิดกันว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่แม่ทำจนเลี้ยงลูกโตมาได้ ส่งเรียนจนจบได้ เป็นอาชีพที่สร้างเงินได้ ทำไมเราถึงไม่ทำต่อ ทำไมต้องเลิกไป เราก็เสียดายเลยคิดว่าเราทำกันต่อเลยดีกว่า เลยตัดสินใจตลงทุนกันเองเลย” คุณจูนเล่าให้เราฟังอย่างมุ่งมั่น

เมื่อมาเปิดใกล้สถานศึกษาและแหล่งวัยรุ่น คุณจูนได้เพิ่มเมนูทานง่ายขึ้นมาใหม่อย่างไส้เผือก ไส้ถั่วแดง และไส้เกาลัค ให้ลูกค้าได้เลือกจับคู่กับนมสด ชานม ชาเขียว และไอศกรีมกะทิ นอกจากนี้ยังมีเฉาก๊วย เต้าฮวย และปังเย็นไว้บริการอีกด้วย

“เราไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นไส้งาอย่างเดียว ก็เลยทำไส้ง่ายๆ ที่คนชอบกินด้วยอย่างเผือกและถั่วแดง ส่วนน้ำขิง เราอยู่ใกล้แหล่งศึกษา ก็เลยเปลี่ยนเป็นนมสด ชานม ชาเขียว ให้ลูกค้าเลือกจับคู่ได้ อย่างงาดำนมสด ถั่วแดงนมสด เผือกชานม ถั่วแดงชาเขียว แต่พอมาเปิดแล้วก็รู้ว่านักศึกษาเองก็ชอบกินน้ำขิงเหมือนกัน คือ 40% เลยที่สั่งน้ำขิง”

คุณจูนเล่าว่าในกรุงเทพฯ มีแหล่งผลิตบัวลอยขายส่งอยู่ที่เยาวราชและย่านประตูผี แต่ Sweet Circle เลือกที่จะทำเองทั้งหมด เพราะเชื่อว่าลูกค้าสามารถรับรู้ความแตกต่างระหว่างบัวลอยที่ปั้นมือกับที่ผลิตด้วยเครื่องจักรได้ แม้การปั้นมือมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและยาวนานถึง 3 วันก็ตาม

คุณจูนยกบัวลอยเผือกไอศกรีมกะทิ (70 บาท) มาให้เราชิมเป็นถ้วยแรก แป้งบัวลอยของที่นี่ไม่หนามาก รสสัมผัสนุ่มหนึบกำลังดี ไส้เผือกเนื้อเนียนหอม ทานเข้ากันลงตัวมากกับไอศกรีมกะทิสดและนมสด ถัดมาคือบัวลอยงาดำลาวาชานม (70 บาท) บัวลอยงาดำที่กัดแล้วไส้เยิ้มแบบเต็มปากเต็มคำ หอมงาดำเตะจมูก ทานเพลินๆ กับชานมรสกลมกล่อม ซึ่งมีให้เลือกทั้งชาไทยสูตร Sweet Circle และชาฮ่องกง

ส่วนเมนูขายดีของที่นี่คือบัวลอยรวมรสน้ำขิง (55 บาท) ที่รวมไส้งาดำ ไส้ถั่วแดง และไส้เผือกไว้ในชามเดียว เสิร์ฟในน้ำขิงสูตรดั้งเดิมที่เรายืนยันว่าเข้มข้นและเผ็ดร้อนมากๆ และอีกเมนูคือ Mr. Black นมสด (80 บาท) บัวลอยเนื้อแป้งชาร์โคลสีดำเท่ๆ สอดไส้เกาลัคทั้งลูกห่อด้วยเผือกกวน ทานเพลินๆ เข้ากับนมสดรสอ่อน

Sweet Circle เปิดเฉพาะช่วงเย็นไปจนถึงดึก เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานของหวานอร่อยๆ หลังมิ้อเย็น นอกจากรสชาติทั้ง 4 ชนิดที่เราได้ชิม ทางร้านยังได้คิดค้นรสชาติใหม่ๆ ขึ้นมาอยู่ตลอด รวมถึงชานมสูตรใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ใครที่ชอบทานบัวลอย ขอแนะนำว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่ห้ามพลาดเลย!

Find it:

Sweet Circle

สวนหลวงสแควร์ ซอยจุฬาลงกรณ์ 5

091-951-9656

17.00-23.00 น.