Hot Spot: เปิดเมนูใหม่ของ Chomp คาเฟ่คอมฟอร์ทฟู้ดที่ดีทั้งต่อใจและร่างกาย

หากคุณชอบไปย่านพระนคร คุณคงเคยเห็นหรือรู้จักกับ Chomp แล้ว คาเฟ่แห่งนี้มีเป้าหมายที่จะเสิร์ฟอาหารแนวคอมฟอร์ทฟู้ดที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ เลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปีนี้ Chomp ได้เปิดตัวเมนูใหม่ เราเห็นและชิมแล้วก็ยืนยันว่าอร่อยและน่าสนใจเหมือนเคย

Chomp คือคาเฟ่เล็กๆ ของคุณจิลี แบ็ค และสามีชาวไทย ตั้งอยู่ปากซอยสามเสน 1 ย่านพระนคร ตัวร้านด้านนอกมีลวดลายกราฟฟิตี้สีสันสดใส ส่วนด้านในออกแบบให้ดูเรียบง่ายสบายตา อาหารเป็นแนวตะวันตกที่มีให้เลือกหลากหลายและเหมาะกับทุกเพศทุกวัย

“ก่อนเปิดร้าน เรามานั่งคิดว่าอะไรที่ยังขาดอยู่ในย่านนี้ เพราะมีหมดแล้วทั้งอาหารไทย บาร์ที่มีดนตรีสด ร้านอาหารไทยที่เสิร์ฟอาหารมังสวิรัติ เราเองเป็นมังสวิรัติและบางครั้งก็ไม่ได้อยากทานอาหารไทย และเราเองก็มีครอบครัวด้วยเลยอยากหาที่ที่สามารถพาลูกๆ ไปด้วยกันได้ จึงกลายมาเป็นร้านนี้ ที่ที่เหมาะกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ เด็กหรือผู้ใหญ่ คนที่ทานเนื้อหรือมังสวิรัติ คนที่ดื่มหรือไม่ดื่มแอลกอฮอร์” คุณจิลีเล่าให้เราฟัง

คุณจิลีทานมังสวิรัติมานานกว่า 27 ปีแล้ว และเป็นผู้ออกแบบเมนูทั้งหมดของร้านโดยเริ่มจากเมนูมังสวิรัติที่มีรสชาติจัดจ้านไปด้วยเครื่องเทศและสมุนไพร ก่อนที่สามีจะช่วยดัดแปลงโดยเพิ่มเนื้อสัตว์เข้าไป

“เราให้ความสนใจเรื่องรสชาติมากๆ หลายคนมักคิดว่าอาหารมังสวิรัติไม่อร่อยและน่าเบื่อ แต่ไม่ว่าจะเป็นเมนูเนื้อหรือมังสวิรัติ เราจะเน้นเรื่องการใช้สมุนไพรและวัตถุดิบที่สดใหม่ พยายามใช้น้ำตาลให้น้อยที่สุด ออกแบบให้แต่ละเมนูมีความหวานจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพของลูกค้า” คุณจิลีเสริม

เมนูแรกที่เราลองคือ Chomp’s Welsh Rarebit (175 บาท) เมนูทานง่ายที่เหมาะกับมื้อเช้า ประกอบด้วยขนมปังปิ้งโฮมเมดวางทับด้วยแฮชบราวน์คุณภาพดี ผักโขม ยอดอ่อนทานตะวัน แล้วราดด้วยชีสเยิ้มๆ ที่ปรุงด้วยสมุนไพรหอมๆ รสชาติลงตัวทานได้เรื่อยๆ คุณจิลีแนะนำว่าเหมาะมากสำหรับคนที่มีอาการแฮงก์โอเวอร์ และ Vegan Go for Green (195 บาท) เมนูมังสวิรัติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน ที่สำคัญคือรสชาติเข้มข้นมากๆ ปรุงโดยนำเดรสซิ่งที่มีน้ำมันมะพร้าวรสพริกและน้ำส้มสายชูบัลซามิกเป็นส่วนประกอบ ไปคลุกกับถั่วลันเตาและอโวคาโดเนื้อหวาน ผักโขม ต้นอ่อนทานตะวัน กระเทียมและถั่วกรุบกรอบ แล้วราดบนมันฝรั่งอบทั้งลูก

นอกจากนี้เรายังได้ลอง Hot Veggie Bacon (180 บาท) เส้นพาสต้าผัดกับผักโขม มะเขือเทศเชอร์รี่ พริกแห้ง กระเทียม และเบคอนเจ ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำมะนาว สามารถเลือกเสิร์ฟพร้อมพาร์เมซานชีสได้, Cheeky Chick Wrap Melt (195 บาท) แป้งตอติญ่าอบกรอบใส้ครีมเห็ดไก่และข้าวโพด, Salmon Burger (230 บาท) แฮมเบอร์เกอร์เนื้อปลาแซลมอนสับหมักด้วยสมุนไพรชิ้นโต โปะผักดอง หัวหอมทอด ราดซอสเอโอลีสูตรพิเศษ เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอด, และ Goats Cheese & Couscous Salad (215 บาท) คูสคูสสดผสมกับผักสด ผักย่าง ถั่วแดง สมุนไพร และชีสนมแพะ ราดด้วยเดรสซิ่งเลมอนพริกไทยดำรสเปรี้ยวสดชื่น

เครื่องดื่มของ Chomp ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มี Coco Khmer Chili Coconut Chocolate Bullet Proof Coffee (145 บาท) กาแฟจากก้องวัลเลย์ กระบี่ ปั่นรวมกับน้ำมันมะพร้าวรสพริก หัวกะทิ ดาร์กช็อกโกแลต และผงอบเชย เป็นเมนูเพิ่มพลังที่ดื่มแล้วร่าเริงได้ทั้งวัน, Juniper Ford (200 บาท) ค็อกเทลหวานหอมรสเข้มที่มี Ford Gins เป็นเบส เขย่ากับผลจูนิเพอร์เบอร์รี่ที่นำไปแช่ในน้ำเชื่อมดอกเอลเดอร์ โซดา และผิวเลมอนสด, และที่พลาดไม่ได้คือ น้ำตกมาร์การิต้า (170 บาท) ค็อกเทลปั่นรสเปรี้ยวหวานสดชื่นที่ผสมด้วยเหล้ารัม ทริปเปิ้ลเซค และเครื่องน้ำตกอย่างผักชีฝรั่ง ใบสาระแหน่ มะนาว พริกป่นและข้าวคั่วหอมๆ

ตบท้ายด้วยเมนูของหวานกับ Spiced Apple Crumble (165 บาท) แอปเปิ้ลครัมเบิลโฮมเมดอบสดที่มีกลิ่มหอมๆ ของอบเชยและจันทน์เทศ เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมไอศกรีมวานิลลาลูกโต หากใครจะสั่งเมนูจะต้องเผื่อเวลาอบไว้ 20 นาที แต่รับรองได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

นอกจากเป็นคาเฟ่ Chomp ยังเป็นชุมชนเล็กๆ สำหรับศิลปิน และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ที่คุณจิลีและสามีตั้งใจทำขึ้นเพราะเชื่อว่าการกระทำเล็กๆ ก็สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมได้

“เราสนับสนุนศิลปะมาโดยตลอด ทุกๆ เดือนที่นี่มีการจัดแสดงผลงานศิลปินท้องถิ่นที่ชั้น 2 และมีโยคะสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็น community space ที่เราให้ใช้ได้ฟรี เพราะบางครั้งศิลปินหน้าใหม่อาจไม่มีเงินไปเช่าแกลลอรี่ใหญ่ๆ หรือจ่ายค่าคอมมิชชั่นจากยอดขาย เราอยากให้พวกเขามีที่จัดแสดงที่แรกก่อนจะต่อยอดไปจัดแสดงในแกลลอรี่อื่นต่อได้หรืออย่างน้อยก็มีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากขายผลงานชิ้นแรกได้ ส่วนโยคะเราก็ไม่ได้คิดเงินครู เพื่อที่ครูจะได้คิดราคาถูกกับนักเรียนได้ ทั้งหมดนี้คือการที่เราพยายามตอบแทนกลับสู่สังคม” คุณจิลีเล่า

Chomp เป็นคาเฟ่ที่ให้ความใส่ใจกับคนที่มีข้อจำกัดด้านอาหารเป็นพิเศษ ลูกค้าสามารถขอเพิ่มหรือลดส่วนประกอบของแต่ละเมนูได้เลย คุณจิลีเล่าว่าเธอเองมีอาการแพ้หัวหอมใหญ่จึงเข้าใจคนที่มีอาการแพ้เป็นอย่างดี เธอให้ความใส่ใจในการแยกภาชนะเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการปนเปื้อน และยังสามารถทำอาหารตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน โดยยังคงรสชาติและความอร่อยของแต่ละเมนูไว้ได้ด้วย

Find it:

Chomp

ปากซอยสามเสน 1

02-629-2026

9.00-23.00 น.