ผลตรวจสอบคุณภาพอากาศและเสียงชี้ชัด กรุงเทพฯ เมืองสะสมมลพิษ

ยิ่งกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เจริญมากเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าจะยิ่งสะสมมลพิษมากขึ้นเท่านั้น หลังข้อมูลของสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่าจากที่กทม.ได้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพอากาศและเสียงในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ใน 4 จุด ได้แก่ สถานีสำนักงานเขตราชเทวี สถานีสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ สถานีสำนักงานเขตพระโขนง และสถานีสวนป่าวิภาวดีรังสิต พบว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม 2559 มีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน มีค่าเกินมาตรฐาน ตรวจวัดได้ที่ช่วง 12-159 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)

ส่วนฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีค่าเกินมาตรฐาน ตรวจวัดได้ที่ช่วง 3-53 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ มีค่าเกินมาตรฐาน ตรวจวัดได้ที่ช่วง 0-176.5 ppb (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ppb) ยกเว้นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้ สาเหตุเนื่องมาจากรถยนต์ที่วิ่งบนท้องถนน ด้วยปริมาณรถยนต์บนท้องถนนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับปัญหาการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ รวมไปถึงการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้า และปัญหาจากโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงร้านอาหารปิ้งย่างริมทางทำให้เกิดโอโซนที่เป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ

อย่างไรก็ดี สำนักสิ่งแวดล้อมยังคงดำเนินมาตรการลดมลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสภาพแวดล้อม ด้วยความร่วมมือของสำนักงานเขต 50 เขต เข้มงวดในการตั้งจุดตรวจจับรถยนต์ควันดำบริเวณริมถนน เพิ่มจำนวนรถดูดฝุ่นและเพิ่มความถี่ของการล้างถนนและบริเวณแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าให้มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อลดฝุ่นละออง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งมวลชน หรือทางเดียวกันไปด้วยกัน เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน

ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ กทม.