Hot Spot: ชวนชิมบั๋นหมี่แบบเวียดนามแท้ๆ ที่ Banh Mi Bo

ถ้าให้เอ่ยชื่ออาหารเวียดนามที่เรารู้จัก คำตอบคงมีแค่เฝอ ก๋วยจั๊บญวณ และผักเขียวๆ ที่ไว้ทานคู่กัน แต่ที่ “Bahn Mi Bo” ร้านอาหารเวียดนามสไตล์ Fast Casual ในซอยสุขุมวิท 33/1 ที่เพิ่งเปิดเมื่อปลายเดือนพฤษภาที่ผ่านมา น่าจะทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้นหากนึกอยากทานอาหารเวียดนามขึ้นมา

วณิชชา วัฒนาวาณิชกร หรือคุณโบว์ เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าร้านนี้เกิดจากเธอไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียและได้พบริชชี่ แฟม แฟนหนุ่มชาวเวียดนาม “ตอนเรียนเราทานอาหารเวียดนามเยอะมาก เพราะมันมีชุมชนคนเวียดนามอยู่ที่นั่น แต่พอกลับมาไทย เราหาบั๋นหมี่ (Banh Mi) อร่อยๆ ทานไม่ได้เลย ก็เลยคิดว่าน่าจะลองทำดู”

Banh Mi Bo ในรูปแบบฟู้ดทรัคเริ่มตระเวนขายตามอีเว้นท์มาร์เก็ตทั่วกรุงเทพฯ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และได้รับการตอบรับที่ดีมาก ด้วยกระแสฟู้ดทรัคที่บูมพอดี ก่อนที่คุณโบว์และคุณริชชี่จะหยุดพักและตัดสินใจเปิดร้านอย่างจริงๆ จังๆ

ทีเด็ดของร้านนี้คือ Banh Mi (90 บาท) หรือขนมปังคล้ายบาแกตต์ ข้างในมีไส้ต่างๆ ซึ่งเป็นอาหารที่หากินได้ง่ายของเวียดนาม ที่นี่มีให้เลือกถึง 5 แบบ ตั้งแต่หมูกรอบ หมูเวียดนาม หมูแดง ไก่ตะไคร้ และเต้าหู้เจ วันนี้เราขอลองบั๋นหมี่หมูเวียดนามที่คุณโบว์บอกว่าขายดีที่สุด ชอบที่ขนมปังกรอบกำลังดี และรสชาติของหมูเวียดนามนุ่มๆ ที่ปรุงรสมาอย่างดีก็ลงตัว ใครที่ชอบรสเผ็ดๆ ก็สามารถขอเพิ่มซอสพริกได้ด้วย

นอกจากขนมปังที่ทางร้านอบใหม่ทุกวันแล้ว วัตถุดิบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ แครอท แตงกวา ไปจนถึงน้ำซุปเฝอที่ใช้เวลาต้มถึง 14 ชั่วโมงจนได้ความหวานของกระดูก จะผ่านมือคุณโบว์และคุณริชชี่เองทั้งหมด โดยหยิบเอาสูตรของครอบครัวคุณริชชี่ที่สืบทอดกันมาค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ ลอง จนได้รสชาติที่ลงตัว

“ที่ย้ายจากฟู้ดทรัคมาเป็นร้านเพราะว่าเราค่อนข้างพิถีพิถันเรื่องขนมปังมาก บั๋นหมี่จะอร่อยหรือเปล่า 60% อยู่ที่ขนมปัง และขนมปังเก็บยากมาก วันไหนอากาศชื้น ขนมปังก็ไม่กรอบ วันไหนอากาศแห้ง ขนมปังก็แข็งไป ตั้งใจให้เป็นร้านกึ่งๆ ฟาสต์ฟู้ด คือมาสั่งแล้ว take away ไป แต่ก็มีพื้นที่ส่วนรวมบนชั้นสองของโครงการให้ลูกค้านั่งได้ด้วย”

ต่อกันด้วยเฝอเนื้อ (150 บาท) ที่ทางร้านภูมิใจว่าเป็นแบบฉบับเวียดนามแท้ๆ ทางร้านจะให้ผักสดเป็นเครื่องเคียงกับซอสมา 2 ชนิด คือซอสหอยซิน (Hoi Sin) รสหวาน กับซอสศรีราชาซึ่งต้องเตือนก่อนว่าเผ็ดมากๆ จะจิ้มเนื้อกับซอสหรือเทลงไปในน้ำซุปเลยก็ได้ เนื้อถูกแล่เป็นชิ้นบางๆ ทานแล้วนุ่มลิ้นและไม่มีกลิ่นคาวระดับที่คนไม่ชอบเนื้อทานได้สบาย และเส้นของเฝอก็นุุ่มมาก

คุณโบว์บอกถึงเหตุผลที่ทางร้านเสิร์ฟเฉพาะเฝอเนื้ออย่างเดียวว่า “ที่เวียดนาม หาได้มากสุดก็คือเฝอไก่ แต่เราไม่อยากหลอกลูกค้า เพราะถึงยังไงน้ำซุปก็ต้องใช้เนื้อวัวอยู่ดี ก็เลยมีแค่เนื้ออย่างเดียวดีกว่า”

เมนูสุดท้ายที่เราได้ชิมคือ Summer Roll หรือ Goi Cuon (85 บาท) แป้งข้าวเจ้าพันกับหมูและกุ้งตัวโต กัดเข้าไปเจอเส้นขนมจีนเวียดนาม ผักกาดหอม และโหระพา ทานคู่กับน้ำจิ้มถั่วลิสงรสเค็มๆ สดชื่นใจดี ซึ่งเราสามารถไปหาเมนูนี้ทานในเวียดนามได้เลย

“เราไม่ได้แค่จะขายอาหาร ถ้าเราดัดแปลงมันก็เหมือนไม่ได้หยิบยื่นประสบการณ์แบบเวียดนามแท้ๆ ให้ลูกค้า เลยพยายามเสนอเมนูที่เขาจะพูดได้เต็มปากว่าได้ลองอาหารเวียดนามแล้ว”

การทานอาหารเวียดนามอาจดูไม่คูลสำหรับคนไทย นี่เลยเป็นเหตุผลท่ีลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านยังเป็็นฝรั่งอยู่ซะเยอะ อาจมีคนไทยที่เคยไปทานที่เมืองนอกบ้าง หรือชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ย่านนี้ซึ่งช่วยบอกกันปากต่อปาก และชาวเวียดนามที่คิดถึงอาหารบ้านเกิดตัวเอง แต่คุณโบว์บอกว่าที่เปิดร้านนี้ก็เพราะอยากให้คนไทยได้ทานอาหารเวียดนามกันมากขึ้น “อยากให้ลองเปิดใจดู อย่าปิดกั้นตัวเอง” คุณโบว์บอกทิ้งท้าย

เราขอคอนเฟิร์มอีกเสียงว่าอาหารเวียดนามทานไม่ยาก และอร่อยกว่าที่คิดไว้เยอะเลยล่ะ

FIND IT:
Banh Mi Bo
สุขุมวิทซอย 33/1 BTS พร้อมพงษ์ (ชั้น 1 ของโครงการ Ellsie Boutique Mall)
11.00 – 19.00 น. // ปิดวันอังคาร
(สอบถามเวลาเปิด-ปิดร้านได้ที่ 096-8860052 หรือเพจเฟซบุ๊กของร้าน)
 

Hot Spot: พาไปบุกร้านอาหารและคาเฟ่เปิดใหม่ทั่วกรุงเทพฯ ก่อนใคร อร่อยหรือไม่จะมารีวิวให้รู้กัน
มีร้านไหนเปิดใหม่ไม่เกิน 6 เดือน แวะมาบอกเราได้ที่ krungthep@coconuts.co