10 สิ่งควรรู้ก่อนไปดู How To Win At Checker (Everytime)
ถือเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่น่าจับตามองมากๆ ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเพื่อสิทธิความหลากหลายทางเพศ กรุงเทพฯ 2015 สำหรับ How To Win At Checker (Everytime) หรือชื่อภาษาไทยว่า พี่ชาย My Hero ซึ่งฉายเป็นภาพยนตร์เปิดเทศกาลในวันนี้ที่โรงภาพยนตร์เอสพลานาดรัชดา และจะฉายให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมอีกหนึ่งรอบในวันที่ 7 มิถุนายน รอบ 19.00 น.
Josh Kim ผู้กำกับภาพยนตร์ได้บินลัดฟ้ามาร่วมงานนี้ด้วย โดยประเดิมการพูดคุยครั้งแรกถึงเส้นทางกว่าที่เขาจะได้มากำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของเขา ในกิจกรรม WATCH&TALK Attitude Short Film ที่จัดฉายภาพยนตร์สั้นนานาชาติและภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ ที่ห้องประชุมดร.เทียม โชควัฒนา คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มีหลายเรื่องที่ควรรู้ก่อนตีตั๋วเข้าชมหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าคุณจะจองตั๋วทันหรือไม่ก็ตาม
1. Josh Kim คือผู้กำกับชาวเกาหลีที่เกิดและเติบโตในสหรัฐอเมริกา เขาเรียนจบทางด้านธุรกิจ แต่เริ่มทำงานเป็นผู้ประกาศในสถานีวิทยุและได้มีโอกาสเขียนสคริปต์รายการ จนเริ่มสนใจด้านภาพยนตร์มากขึ้น
2. กว่าที่เขาจะได้ทำภาพยนตร์ยาวเรื่องแรก Josh Kim มีผลงานหนังสั้นมาก่อนมากมาย เช่น The Police Box (2006), The Postcard (2007), A Better Tomorrow (2012)
3. Josh สนใจเรื่องระบบการเกณฑ์ทหารในประเทศไทยมากหลังจากได้อ่านเรื่องสั้น ‘Draft Day’ จากวรรณกรรมเรื่อง “Sightseeing” ของรัฐวุฒิ ลาภเจริญทรัพย์ เพราะเป็นระบบที่อยู่กึ่งกลางระหว่างประเทศเกาหลีที่บังคับให้ผู้ชายทุกคนเป็นทหาร และอเมริกาที่การเป็นทหารเกิดจากความสมัครใจ
4. ‘Draft Day’ และ ‘At the Café Lovely’ สองเรื่องสั้นที่เป็นแรงบันดาลใจของหนังเรื่องนี้ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกย์เลย แต่รัฐวุฒิก็ยินดีให้ผู้เขียนบทภาพยนตร์สามารถนำไปดัดแปลงได้ หลังจากดราฟท์แรกยังอิงจากต้นฉบับอยู่
5. Josh Kim เดินทางมาประเทศไทยเพื่อรีเสิร์ชเรื่องการเกณฑ์ทหารเมื่อ 3 ปีก่อนหน้า และทำหนังสารคดีเรื่อง Draft Day (2013) ถ่ายทอดชีวิตของสาวประเภทสอง 2 คนที่ต้องมาเกณฑ์ทหาร เพื่อลบข้อครหาที่ว่า “ไม่ใช่คนไทย จะทำหนังไทยได้เหรอ?” สารคดีเรื่องนี้ทำให้ Josh เชื่อว่าเขาเองสามารถทำภาพยนตร์ได้
สารคดีเรื่อง Draft Day
6. Josh รวบรวมเงินทุนสร้างหนังทั้งจากเว็บไซต์ Kickstarter แต่ไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ทำให้ต้องขอเงินทุนเพิ่มเติมจากเพื่อนฝูงและนายทุนอิสระมากมาย เนื่องจาก Josh มีสัญชาติอเมริกันทำให้ไม่สามารถขอทุนในเทศกาลภาพยนตร์ได้
7. How To Win At Checker (Everytime) เริ่มแคสติ้งนักแสดงกว่า 50 คนเมื่อเดือนมีนาคม 2557 และถ่ายทำในเดือนมิถุนายน ใช้เวลาถ่ายทำเพียง 20 วัน มีโลเกชั่นถึง 29 แห่ง โดยดราฟท์แรกของหนังได้จุ๊ก-อาทิตย์ อัสสรัตน์ช่วยคอมเม้นท์ ทำให้ Josh ปรับวิธีการเล่าเรื่องใหม่ให้น่าสนใจมากขึ้น และสิ่งสำคัญคือต้องให้คนดูมีความรู้สึกร่วมไปกับหนัง
8. หนังเรื่องนี้ฉายรอบ World Premier ไปแล้วที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลินในโปรแกรม Panorama และเพิ่งคว้ารางวัล Best International Feature ไปในเทศกาล Film Out San Diego
9. ในการพูดคุย Josh Kim ยังบอกว่าตัวเขาเองตอนเด็กๆ ไม่ได้อยากจะเป็นเกย์ แต่สุดท้าย การเป็นเกย์อาจเป็นสิ่งดีที่สุดในชีวิตเขา เพราะทำให้เขาสามารถทำภาพยนตร์เรื่องแรกนี้ได้สำเร็จจากความช่วยเหลือของผู้คนมากมายที่เป็นเกย์
10. Josh หวังว่าหนังเรื่องนี้จะช่วยทำให้สังคมไทยยอมรับสถานภาพเพศที่สามมากขึ้น เกย์เป็นเพียงคุณสมบัติหนึ่งของมนุษย์ไม่ต่างจากเพศชายและหญิง หนังเรื่องนี้ไม่ต้องการนำเสนอภาพให้เกย์เป็นตัวประหลาดหรือเศร้าฟูมฟายเหมือนหนังเกย์ทั่วไป
You may be interested
คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้
Sapparot - Dec 26, 2018คุณครูชั้นประถมในสหรัฐฯ อวดของขวัญชิ้นโดนใจที่ได้รับในช่วงเทศกาลแห่งความสุขจากลูกศิษย์ตัวน้อยที่แม้ตัวเองจะไม่มีอะไรก็ยังตั้งใจสรรหาของขวัญมาให้คุณครูจนได้ ถึงจะเป็นแค่มาร์ชเมลโลว์จากซีเรียลอาหารเช้าธรรมดา ๆ แต่เพราะว่ามีความตั้งใจของหนูอยู่เต็มเปี่ยมในนั้น มันเลยพิเศษที่สุดเลย
10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018
Sapparot - Dec 25, 201810 รูปยอดไลค์สูงสุดจาก Instagram ปี 2018 รวมแล้วมาจากคนดังระดับโลกเพียง 5 คนเท่านั้น โดยมีหนูน้อย Stromi ลูกสาว Kylie Jenner เรียกยอดไลค์กดหัวใจให้คุณแม่ได้อย่างดีเชียว
อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior
Sapparot - Dec 24, 2018Dior เผยโฉมแอคเซสซอรี่ชิ้นใหม่ Rose Céleste จี้กลมรูปพระอาทิตย์-พระจันทร์ งานแฮนด์เมดสุดปราณีตจากทองคำและเปลือกหอยมุก