Hotspot: Patisserie Rosie แล้วคุณจะตกหลุมรักขนมฝรั่งเศส

ถ้าจะพูดถึงขนมสไตล์ฝรั่งเศส ภาพแรกที่ลอยเข้ามาคงจะเป็นภาพเค้กครีมหนาปอนด์ใหญ่ หรือมาการองหลากสีสัน แต่วันนี้ลองลบภาพเหล่านั้นไปก่อน แล้วมาทำความรู้จักกับ Pastry ไปพร้อมๆ กับเราที่ร้าน Patisserie Rosie แล้วจะได้รู้ว่า เสน่ห์ของขนมหวานฝรั่งเศสที่เราไม่รู้ยังมีอีกมากมาย

“เพราะวงการขนมไทยมันวนเวียนอยู่แค่ฮันนี่ โทสต์, เครปเค้ก, ช็อตเค้ก แต่เรารู้สึกว่าจริงๆ มันมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่านั้น อย่างถ้าพูดถึงเค้ก คนไทยก็จะชอบไปอิงกับญี่ปุ่น ทั้งที่ญี่ปุ่นเองก็อิงมาจากฝรั่งเศสอีกทีนึง เราเลยคิดว่าทำไมต้องไปทำตามสูตรของญี่ปุ่นด้วยล่ะ ทำตามแบบออริจินัลเลยดีกว่า” คุณหน่อง-เกษร ภัทรมาศ หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านเริ่มเราให้ฟังถึงจุดเริ่มต้น

“ทุกคนพูดเหมือนกันว่าทำไมไม่เปิดร้านอาหาร แต่จริงๆ ร้านอาหารในกรุงเทพฯ มีเยอะมากทุกหย่อมหญ้า ซึ่งร้านอาหารดีๆ ก็มีอยู่เยอะแล้ว แต่ร้านขนมที่ดียังมีน้อย เลยคิดว่าเปิดร้านขนมมันน่าสนใจกว่า”
 

จากนั้น การร่วมทางตามความฝันของหุ้นส่วนทั้ง 4 คนก็เกิดขึ้น ช่วยกันคิดช่วยกันสร้างจนสามารถเปิดร้าน Patisserie Rosie ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งผลตอบรับอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ จนเรียกว่าหายเหนื่อยและหายเครียดเลยทีเดียว

“ตอนแรกที่เปิดมา เราก็ค่อนข้างกลัวจะขายไม่ได้เหมือนกัน เพราะหลายๆ เสียง บอกว่าคนไทยไม่ชอบกินมูสเค้ก ไม่ชอบกินเค้กแบบฝรั่งหรอก ตอนแรกเราเลยคิดว่าลูกค้ากลุ่มหลักอาจจะเป็นคนต่างชาติ ยุโรป ญี่ปุ่น ที่อยู่แถวนี้ สุดท้ายก็เป็นคนไทยเนี่ยแหละค่ะ เค้าก็ประทับใจแล้วก็ชอบขนมแบบนี้มากขึ้น”
  

สำหรับเมนู Pastry ของที่นี่ถือเป็นสูตรเฉพาะตัวผ่านการทดลองจนได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวและถูกปากคนรักของหวาน ด้วยฝีมือของเชฟแชมป์ พานิชกุล หุ้นส่วนคนสำคัญที่เรียนจบด้านอาหารจาก Le Cordon Bleu ด้วยความที่ชอบทำอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้มาทำร้านอาหารและมีโอกาสทำไลน์ขนม จึงเริ่มสนใจในศาสตร์ของหวานมากขึ้น

“แรงบันดาลใจที่ทำให้อยากทำขนมคือคุณแชมป์มีโอกาสได้ไปฝรั่งเศส แล้วก็ได้ทานมาการองของ Pierre Hermé มันเป็นมาการองที่เปลี่ยนชีวิตเค้าไปเลย คือเค้ากินในเมืองไทยแล้วคิดว่ามันอร่อยตรงไหน คือที่ไทยเนี่ยเอามาปรับสูตรจนมันไม่ใช่ แต่พอได้ไปทานต้นตำรับเลยรู้ว่าอ๋อ! มันอร่อยแบบนี้เอง จากนั้นก็เลยศึกษาด้านขนมอย่างจริงจัง”
  

นอกจากนั้นแล้วฝีมือการตกแต่งร้านและดีไซน์ทุกอย่างก็เกิดจากคุณแชมป์อีกเช่นกัน โดยคอนเซปต์หลักคือต้องการให้ลูกค้าเข้ามาแล้วเหมือนอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ช่วงยุค Gatsby ปี 1920 เป็นสไตล์ Art-Deco มีกลิ่นอายของชิโน ยูโรเปียน ในยุคเซี่ยงไฮ้ ซึ่งในยุคนั้นเป็นช่วงที่จีนรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา ซึ่งก็เข้ากับร้านตรงที่ขายชาจีนคู่ไปกับขนมฝรั่งเศสนั่นเอง

“ที่นี่เราจะเน้นชาจีน ไม่ค่อยอยากใช้ชาแต่งกลิ่น เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้ความแท้ของใบชา ชามันก็เหมือนกับไวน์ รสชาติจะต่างกันไปตามดินที่ปลูก ถ้าเป็นชาฝรั่งก็เบสตัวเดียว แล้วก็คั่วหรือเบลนด์กันไป ส่วนชาจีนมันหลากหลายมาก เราเลยเอาชาจีนมาขายดู ลูกค้าก็ว่าแปลกดี แล้ววิธีการเสิร์ฟเราก็จะค่อนข้างพิถีพิถัน เพราะชาแต่ละชนิดจะใช้น้ำระดับองศาต่างกัน ส่วนถ้าใบชาแช่อยู่ในน้ำต้มนานไป ความขมมันจะออก รสชาติชาก็เสีย”
 

 
กลับมาที่ Pastry พระเอกของร้านนี้ที่วางเรียงรายอยู่ในตู้จนไม่รู้ว่าจะเลือกชิ้นไหนมาชิมก่อนดี จะเลือกจากรสชาติก็มีทั้งเชอรี่ ชาเขียว ช็อกโกแลต หรือจะเลือกตามความน่ารักก็มีทั้งเต่าทองตัวน้อย แอปเปิ้ลลูกใหญ่ ทุกอย่างดูสดใสและน่ากินจนตัดสินใจไม่ถูก

“ด้วยความที่ความชอบของคนมันหลากหลายมาก เวลาคนมาร้านถามหา Signature เราก็ตอบไม่ได้ว่าคือจานไหนนะ แต่เราตอบได้ว่า Best Seller คืออะไร อย่าง Signature มันควรจะเป็นจานที่ทุกคนทานได้ และรู้สึกประทับใจ ถ้าเราจะบอกว่า Cherry Ripe ก็คงไม่ได้ เพราะบางคนไม่ชอบทานเชอรี่ เราก็ต้องแนะนำเป็นตัวอื่นๆ อย่างช็อคโกแลต ส้มยูซุ ชาเขียว เยอะแยะไปหมด ต้องลองมาเลือกดูค่ะ”

เมนูเด็ดที่มาแล้วต้องสั่งมาทานพร้อมกับถ่ายรูปอวดเพื่อนๆ บนโซเชียลต้องยกให้ Cherry Ripe เชอรี่สีแดงเข้มลูกโต เป็นเชอรี่มูสเนื้อนุ่มละมุน มีไส้ Cherry Compote หรือเชอรี่ผัดกับเนยให้ผลไม้มันนุ่ม มี Dark chocolate ganache และ Dark chocolate sponge ด้านใน เหมาะสำหรับคนชอบทานเค้กรสชาติหนัก เนื้อแน่น

ส่วนคนชอบทานเปรี้ยว ต้องห้ามพลาดจานนี้ Yuzu Tart ทาร์ตสีเหลืองสดใส หอมกลิ่นส้มยูซุที่แตกต่างจากเลมอนทั่วไปรสเปรี้ยวจัดจ้านกำลังดี ข้างล่างเป็นทาร์ตมะนาว เนื้อครีมยูซุแน่นนุ่ม ตัวลูกกลมๆ ด้านบนคือโยเกิร์ตมูส รสชาติหวานอมเปรี้ยวจากเจลยูซุด้านใน

จานสุดท้ายคือ Light Chocolate Tart ข้างบนเป็นมูสมิลค์ช็อคโกแลตเบาๆ รสไม่เข้ม ชั้นต่อมาคือครีมคาราเมลช็อคโกแลต ต่อด้วยลงพราลีนเฮเซลนัท และรองด้วยแป้งทาร์ต การันตีว่าใครไม่ชอบช็อกโกแลตเจอจานนี้เข้าไปต้องเปลี่ยนใจแน่นอน
 

 Light Chocolate Tart

  
“เมนูของที่ร้านเราจะเน้นการมีเท็กซ์เจอร์หลากหลายใน 1 เมนู การจะกินเค้กชิ้นนึงแล้วนุ่มอย่างเดียวตั้งแต่หัวจรดท้ายมันน่าเบื่อเกินไป เราเลยพยายามทำให้มันหลากหลาย ความนุ่มจากมูสครีม ความกรอบจากคราแครง พราลีน มีไส้หนักๆ อยู่นิดนึง ทำให้ขนมมันน่าสนใจ”

ส่วนเครื่องดื่มเลือกเป็น Raspberry and lychee cream soda น้ำเชื่อมราสเบอรี่จากเวียนนา ประเทศออสเตรีย ข้างบนเป็นครีมโฟมนุ่ม รสลิ้นจี่หอมกลิ่นกุหลาบ ส่วนชาจีนวันนี้เป็นชาอู่หลงคุณภาพดี แช่ใบชาไว้เพียง 30 นาทีก่อนเสิร์ฟเพื่อไม่ให้เกิดรสขม ซึ่งจิบแล้วช่วยเสริมรสชาติให้กับ Pastry ได้ดีทีเดียว
  

แนะนำให้คนที่เบื่อกับเค้กรสชาติเดิมๆ ฮันนี่โทสต์แถวยาวๆ มาลองเปลี่ยนบรรยากาศชิม Pastry กันสักครั้ง เพราะมันไม่ได้มีดีแค่หน้าตาสวยอย่างเดียวเท่านั้นหรอกนะ

FIND IT:
Patisserie Rosie
ซอยทองหล่อ 10 ฝั่งตรงข้าม Arena 10
12.00 – 21.30 น.
Tel. 092-5429900

ภาพ: สุภิญญา นาคมงคล

Hot Spot: พาไปบุกร้านอาหารและคาเฟ่เปิดใหม่ทั่วกรุงเทพฯ ก่อนใคร อร่อยหรือไม่จะมารีวิวให้รู้กัน
มีร้านไหนเปิดใหม่ไม่เกิน 6 เดือน แวะมาบอกเราได้ที่ krungthep@coconuts.co