นักวิจัยแนะควรมีเขตปลอดเซลฟี่ ป้องกัน “selficide” พบมีการตายรูปแบบนี้แล้วหลายร้อยศพ

Selficide มาจากคำว่า selfie + suicide (เซลฟี่ และ ฆ่าตัวตาย) เป็นศัพท์ที่ Dr.Agam Bansal นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งอินเดีย ได้บัญญัติขึ้นใช้ในงานวิจัยว่าด้วยการตายอันมีสาเหตุมาจากการถ่ายรูปเซลฟี่ อันได้พบว่านับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2011 – พฤศจิกายน 2017 มีการรายงานข่าวคนเสียชีวิตเนื่องจากพยายามถ่ายรูปเซลฟี่มากถึง 259 ราย และเชื่อว่าจำนวนนี้ยังเป็นเพียงแค่ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น

จากผลการวิจัยซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Family Medicine and Primary Care ระบุว่า การเซลฟี่นั้นไม่เป็นอันตราย แต่การปฏิบัติตนในการเซลฟี่ต่างหากที่นำพาไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิต ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุดคือ จมน้ำ ตามมาด้วยอุบัติเหตุจากยวดยานพาหนะ พลัดตกจากที่สูง อัคคีภัย ไฟดูด อาวุธปืน และสัตว์ ลดหลั่นกันตามลำดับ ผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เกือบ 50% อยู่ในช่วง 20-19 ปี และลำดับถัดมา 36% คือช่วงวัย 10-19 ปี โดยผู้เคราะห์ร้ายเป็นผู้ชายมากกว่าหญิง อยู่ที่ร้อยละ 72.5 และ 27.5 ตามลำดับ

ตัวเลขเหล่านี้ได้มาจากการสรุปผลจากการรวบรวมการรายงานเหตุการเสียชีวิตที่เกิดเนื่องจากการเซลฟี่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งพบว่าเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย ตามมาดด้วยรัสเซีย สหรัฐฯ และปากีสถาน แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตัวเลขจริงนั้นสูงกว่านี้มาก คาดว่าการเสียชีวิตที่มาจากการเซลฟี่ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกรายงานหรือกลายเป็นข่าว หรือบ้างก็ระบุแต่สาเหตุการตายแต่ไม่ได้ระบุว่าการเซลฟี่เป็นต้นเหตุที่นำไปสู่อุบัติเหตุนั้น

Dr.Agam เรียกร้องให้ผู้ใช้อุปกรณ์ถ่ายรูปพึงตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการพยายามถ่ายรูปตัวเอง พร้อมยังเรียกร้องให้มีการประกาศโซนห้ามเซลฟี่ ในพื้นที่ที่ส่อเสี่ยงจะเป็นอันตราย เช่น จุดใกล้แหล่งน้ำ ยอดเขา บนยอดตึก ซึ่งล้วนเป็นสถานที่แบบที่เคยเกิดเหตุจากการเซลฟี่มาแล้วทั้งสิ้น

ที่มา: Metro
ภาพ: Tuce / Unsplash