แพ็คกระเป๋า: ชวนเที่ยวท้าฝนชมความเขียวขจีของนาข้าวขั้นบันไดในซาปา เวียดนาม

ย่างเข้าเดือนหกฝนก็ตกพรำๆ จะออกไปไหนก็เฉอะแฉะเลอะเทอะเลยยิ่งทำให้บรรยากาศมืดครึ้มในช่วงฤดูฝนดูง่วงเหงาซึมเซาไปอีก แต่สำหรับบนพื้นที่เขาสูงของเมืองซาปา จังหวัดลาวไก ประเทศเวียดนาม อาจจะเป็นช่วงที่สุดจะคึกคักจากนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าไปชมความงามของวิวนาข้าวที่ปลูกกันหลดหลั่นไปตามแนวเขา เริ่มต้นจากเดือนมิถุนายนชาวบ้านจะเริ่มลงต้นกล้าอ่อน พอถึงราวเดือนสิงหาคมข้าวก็เริ่มตั้งท้องมองเห็นต้นข้าวสูงเต็มพื้นที่ปลูกจึงเป็นเดือนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเที่ยวชม จากนั้นก็จะออกรวงสีทองในช่วงปลายเดือนกันยายน เพราะฉะนั้น เลือกเวลากันให้ดี แพ็คกระเป๋า แล้วมาเริ่มเดินทางไปพร้อมกัน!

ทริปท้าฝนนี้เราตั้งต้นกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย เมืองฮานอย จากนั้นก็จำเป็นต้องต่อรถเข้าตัวเมือง และอย่าเริ่มที่จะจองตั๋วสำหรับเดินทางไปยังเมืองซาปาในช่วงกลางคืน ส่วนเวลาที่เหลือสามารถจัด One Day Trip ชมความงามของเมืองฮานอย สัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตของชาวเวียดนาม ชิมอาหารท้องถิ่นรสชาติต้นตำรับ หรือท่องเที่ยวตามจุดแลนด์มาร์กต่างๆ อาทิ โบสถ์ St. Joseph, สุสานโฮจิมินห์, สะพานเทฮุก วัดหงอกเซิน, ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (ทะเลสาบคืนดาบ) และโรงละครหุ่นกระบอกน้ำ Thang Long

จากนั้นเมื่อรถไฟหรือรถบัสค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากเมืองฮานอยมุ่งหน้าขึ้นเหนือสู่เมืองซาปา เราก็ต้องเติมพลังด้วยการนอนพักผ่อน เช้าตรู่วันถัดมาเมื่อลงจากรถไฟเราจะสัมผัสความเย็นเบาๆ ก่อนต่อรถบัสคันเล็กขึ้นไปยังเมืองซาปา ระหว่างทางขอบอกว่าอย่าได้เผลอหลับเป็นอันขาดเพราะวิวสองข้างทางจะทำให้คุณเพลิดเพลินและหายเหนื่อยเมื่อยล้าเป็นปลิดทิ้ง

ส่วนรถบัสจะส่งขึ้นถึงตัวเมืองซาปาแต่เราสามารถไปรับชมความงามกันต่อหลังจากที่เก็บกระเป๋าเข้าที่พักแล้ว โดยสถานที่ยอดฮิตคงหนีไม่พ้นหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต หรือที่เราคุ้นตากันว่า Cat Cat Village ซึ่งความพิเศษของหมู่บ้านนี้คือลักษณะเป็นหุบเขาสูงลดหลั่นกันไปทำให้เรามองเห็นทุ่งนาขั้นบันไดสีเขียวสดชื่นแบบเต็มตา และถ้าจะให้ดีก็แนะนำให้ขึ้นกระเช้าเพื่อชมความงามของทุ่งนาแบบ Bird Eye View พร้อมขึ้นไปฝากรอยเท้าบนยอดเขาฟานซีปัน ยอดเขาที่มีความสูงที่สุดในอินโดจีนจนได้รับฉายาว่า ‘หลังคาแห่งอินโดจีน’