สะเทือนใจ ชายชราเขียนใบปลิววอนคนเมตตารับไปดูแล กลัวต้องแก่ตายเงียบๆ คนเดียว
เรื่องราวของ หาน ซื่อเฉิง ชายชราชาวจีนในวัย 85 กับชีวิตเปล่าเปลี่ยวไร้ลูกหลานดูแล หวาดเกรงวาระสุดท้ายของชีวิตต้องตายไปโดดเดี่ยว จึงเขียนใบปลิวประกาศวอนขอผู้เมตตาช่วยรับตนไปดูแล แม้ทำให้มีคนถามไถ่ให้ความสนใจมากมาย แต่ตอนจบสุดท้ายก็ยังสะเทือนใจ..
ในฤดูหนาวเดือนธันวาคม 2017 ใบปลิวเขียนด้วยลายมือใบหนึ่งถูกชายชราวัย 85 นำไปแปะประกาศไว้ตรงท่ารถโดยสารในย่านผู้คนพลุกพล่านใกล้กับบริเวณที่พักของเขาในเมืองเทียนจิน ข้อความในนั้นระบุว่า
หาคนรับดูแลชายแก่โดดเดี่ยวในวัย 80 กว่าๆ ร่างกายยังแข็งแรง สามารถไปซื้อของ ทำอาหาร และดูแลตัวเองได้ ผมเกษียณจากงานนักวิจัยวิทยาศาสตร์ในเมืองเทียนจิน มีบำนาญเดือนละ 6,000 หยวน ผมไม่อยากไปอยู่บ้านพักคนชรา ความหวังของผมขอพียงจะมีคนดีๆ หรือครอบครัวที่เมตตาช่วยรับอุปการะ ช่วยดูแลผมในวัยชรา และช่วยทำศพให้เมื่อผมตายไปแล้ว
เจ้าของประกาศใบนี้คือ “หาน ซื่อเฉิง” ชายจีนวัยไม้ใกล้ฝั่งผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ทั้งการรุกรานจากญี่ปุ่น สงครามกลางเมือง จนถึงการปฏิวัติวัฒนธรรม แต่ในยามนี้ก็มีสิ่งเขาคิดว่าตนเองไม่อาจจะผ่านพ้นไปได้ นั่นคือการอยู่อย่างโดดเดี่ยวตัวคนเดียวในวัยชรา
2 พฤษภาคม 2561 เว็บไซต์ Washington Post ถ่ายทอดเรื่องราวของคุณปู่หาน ที่เปรียบดังตัวแทนชาวจีนในวัยหลังเกษียณอีกหลายล้านคนที่กำลังแก่ตัวลงเรื่อยๆ โดยไร้ลูกหลานมาดูแล
จากนโยบายยกระดับความเป็นอยู่และรณรงค์มีลูกคนเดียวของจีน กำลังส่งผลให้อัตราประชากรวัยชราค่อยๆ เพิ่มขึ้น ในปัจจุบันมีสัดส่วนประชาวัยเกษียณร้อยละ 15 ต่อจำนวนประชากรทั้งหมด แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25 หรือ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดภายในปี 2040 อันจะส่งผลกระทบต่อสังคมทั้งด้านเศรษฐกิจและรูปแบบชีวิตครอบครัวอย่างแน่นอน ทั้งแรงงานในระบบจะลดลง และเด็กที่เป็นลูกโดดในวันนั้นจะกลายเป็นเพียงกำลังเดียวที่ครอบครัวมีในการดูแลพ่อแม่ที่แก่ชรา หรือไม่ก็อาจจะเกิดปัญหาละทิ้งการดูแลบุพการีของตน
เจียง เฉวียนเป่า ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง กล่าวถึงสิ่งที่จีนกำลังเผชิญอยู่ว่า จีนกำลังเป็นทั้งประเทศกำลังพัฒนาและสังคมผู้สูงวัยไปพร้อมๆ กัน แต่ดูเหมือนจีนจะแก่เสียก่อนที่จะรวย
เรื่องราวจากใบประกาศหาคนดูแลของปู่หานถูกหญิงผู้หนึ่งพบเห็นเข้าและนำไปแชร์ในโซเชียลมีเดีย จนในที่สุดก็เกิดการตามหาตัวเขา มีคนติดต่อเข้ามาพูดคุยมากมายทั้งที่เป็นสื่อต่างๆ และคนที่สนใจเรื่องราวของคุณปู่
ปัจจุบันปู่หานอาศัยอาศัยอยู่ตัวคนเดียวในอาคารที่พัก ภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว ลูกชายคนหนึ่งย้ายไปตั้งรกรากที่แคนาดา ไม่ได้ติดต่อกันบ่อยนัก ส่วนอีกคนก็มีเรื่องบาดหมางหนักจนเข้าหน้ากันไม่ติด ปู่หานเติบโตขึ้นมาในยุคที่ได้เห็นลูกหลานคอยดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่า เขาเองหวังว่าตนจะได้รับการดูแลเช่นนั้น แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นอย่างที่หวัง
ช่วงแรกที่ข่าวโด่งดังออกไปทำให้ปู่หานมีความหวังมากว่าจะได้เจอครอบครัวดีๆ มีเมตตาเข้ามาช่วยดูแล แต่เมื่อเวลาล่วงผ่านจึงได้พบว่าการจะหาครอบครัวดีๆ อย่างที่เขาคาดหวังเอาไว้ช่างยากเย็น เขาได้ปฏิเสธความหวังดีไปคราวหนึ่ง คนเสนอโอกาสนั้นคือคนอาชีพใช้แรงงานที่ย้ายมาจากต่างถิ่นซึ่งปู่หานคิดว่านี่ไม่ใช่คนแบบที่เขาหวังจะได้พบ ยิ่งพักหลังๆ เมื่อมีคนโทรไปถามไถ่ ชายชรามักใส่อารมณ์คุยว่ากราดแสดงความไม่พอใจต่อระบบดูแลผู้สูงวัยของรัฐบาลและการจัดการที่ย่ำแย่ของบ้านพักคนชราในท้องที่ให้ฟัง
แม้จะไม่ได้พบคนดีๆ หรือครอบครัวที่จะรับเขาไปดูแลอย่างที่คาดหวัง กระนั้นชายชราก็ยังได้เพื่อนใหม่จากการพูดคุยทางโทรศัพท์ หนึ่งในนั้นคือ เจี้ยง จิง สาวนักศึกษาวิชากฎหมายวัย 20 ปี ที่โทรศัพท์มาพูดคุยกับปู่หานอยู่เป็นระยะ
หลังการติดต่อเข้ามาถามไถ่เรื่องราวเรื่อมซาลงไปตามกระแส ความหวาดหวั่นที่จะต้องแก่ตายไปเงียบๆ คนเดียวไ่ม่มีแม้คนเข้ามาพบศพก็กลับมารบกวนจิตใจอีกครั้ง ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ปู่หานหันไปพึ่งพาศูนย์ฮอตไลน์สำหรับผู้สูงวัยที่ชื่อ Beijing Love Delivery Hotline โทรไปพูดคุยและบ่นว่าความไม่ได้เรื่องของบ้านพักคนชราของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ฟังตามประสา เขาจะโทรเข้าไปราวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จนย่างเข้าเดือนมีนาคมก็ไม่มีสายจากปู่หานโทรเข้ามาอีก
“สังคมหรือแม้แต่คนในครอบครัวต่างรู้สึกลำบากและรับมือไม่ได้กับความขี้หงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายและอารมณ์ซึมเศร้าซึ่งมักเกิดกับผู้สูงวัย ปัญหาจึงเกิดขึ้นเมื่อผู้ชราถูกกันให้อยู่ห่างออกไปในขณะที่พวกเขากำลังต้องการให้มีคนเข้าใจมากที่สุด” ฉือ คุน ผู้ก่อตั้งศูนย์ฮอตไลน์เพื่อป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายโดยเฉพาะในผู้สูงวัยกล่าว
ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตคุณปู่หาน เพื่อนคุยต่างวัยอย่าง เจี้ยง จิง เผยว่าเธอคุยกับชายชราครั้งสุดท้ายในวันที่ 13 มีนาคม ปู่โทรมาอีกครั้งในวันที่ 14 แต่เธอรับสายไม่ทันและไม่ได้โทรกลับไปอีกจนกระทั่งช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตอนนั้นเองที่คนรับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชายที่หนุ่มกว่า บอกกับเธอว่าพ่อของเขาเสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม
หาน ชาง ผู้เป็นลูกชายที่บินมาจากแคนาดาเพื่อจัดการศพของพ่อ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวมากนัก แต่ยืนยันว่าลูกๆ ไม่ได้ทอดทิ้งและดูแลพ่ออย่างดี อีกทั้งที่จริงพ่อมีลูก 3 คน ไม่ใช่สองคนอย่างที่ให้ข่าว แต่ไม่ขอระบุชื่อพี่น้องเพราะเกรงจะถูกรบกวนความเป็นส่วนตัว และเผยข้อมูลในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตบิดาว่า ในโทรศัพท์ของพ่อมีประวัติการโทรออกไปยังเบอร์หนึ่งในวันที่ 17 มีนาคม คาดว่าเป็นการโทรไปขอความช่วยเหลือ ซึ่งต่อมาพ่อจึงถูกนำตัวไปโรงพยาบาลและเสียชีวิตลง
แม้จะไม่ได้ตายไปเงียบๆ คนเดียวบนเตียงอย่างที่เคยหวาดหวั่น แต่การจากไปของชายชราที่ชื่อ หาน ซื่อเฉิง ก็เป็นการจากไปอย่างเงียบเชียบแทบไม่มีใครสนใจ แม้จะมีเพื่อนบ้าน 5 รายที่บอกว่าผิดสังเกตนิดหน่อยที่ไม่เห็นปู่หานออกมาเดินในทางส่วนกลางอย่างที่เคย แต่ก็ไม่ได้ไปเช็กดูที่ห้องของเขา ส่วนกลุ่มในชุมชนที่พักอาศัยใก้เคียงกันก็เพิ่งจะได้ตกอกตกใจที่ทราบข่าวการตายของนายหาน ก็เมื่อเขาเสียชีวิตไปร่วม 2 สัปดาห์แล้ว…
ภาพและที่มา: Washington Post
You may be interested
คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้
Sapparot - Dec 26, 2018คุณครูชั้นประถมในสหรัฐฯ อวดของขวัญชิ้นโดนใจที่ได้รับในช่วงเทศกาลแห่งความสุขจากลูกศิษย์ตัวน้อยที่แม้ตัวเองจะไม่มีอะไรก็ยังตั้งใจสรรหาของขวัญมาให้คุณครูจนได้ ถึงจะเป็นแค่มาร์ชเมลโลว์จากซีเรียลอาหารเช้าธรรมดา ๆ แต่เพราะว่ามีความตั้งใจของหนูอยู่เต็มเปี่ยมในนั้น มันเลยพิเศษที่สุดเลย
10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018
Sapparot - Dec 25, 201810 รูปยอดไลค์สูงสุดจาก Instagram ปี 2018 รวมแล้วมาจากคนดังระดับโลกเพียง 5 คนเท่านั้น โดยมีหนูน้อย Stromi ลูกสาว Kylie Jenner เรียกยอดไลค์กดหัวใจให้คุณแม่ได้อย่างดีเชียว
อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior
Sapparot - Dec 24, 2018Dior เผยโฉมแอคเซสซอรี่ชิ้นใหม่ Rose Céleste จี้กลมรูปพระอาทิตย์-พระจันทร์ งานแฮนด์เมดสุดปราณีตจากทองคำและเปลือกหอยมุก