McDonald’s ถูกสื่ออังกฤษแฉ อาหารมีปริมาณแคลลอรี่-เกลือ-น้ำตาล เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
McDonald’s ถูกสื่ออังกฤษแฉ มีปริมาณแคลลอรี่ เกลือ และน้ำตาลในอาหารพุ่งเพิ่มจากเมื่อ 30 ปีก่อนทั้งที่เป็นเมนูเดิม เฉพาะบิ๊กแมค ปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้น 3 เท่า เกลือเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า! แม้ทางร้านอ้างใส่ใจสุขภาพผู้บริโภคยิ่งกว่าเก่า
การเปรียบเทียบดังกล่าวเป็นผลจากการเคลื่อนไหวขององค์กร Action on Sugar ในอังกฤษ ซึ่งพยายามผลักดันให้แบรนด์ฟู้ดเชนและร้านอาหารต่างๆ ปรับลดแคลลอรี่ในอาหารลงจากเดิม 20% โดยการค้นพบที่น่าตกใจในเคสของ McDonald’s ฟาสต์ฟู้ดเชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้เกิดขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์ The Sun ได้เปรียบเทียบปริมาณสารอาหารที่ทางร้านแจ้งจะไว้ที่ข้างกล่องบรรจุภัณฑ์และกระดาษรองถาด เทียบใบแจ้งปริมาณสารอาหารของเมนูเดียวกันจากปี 1989 และพบว่าอาหารเมนูเดิมยิ่งทำร้ายสุขภาพผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าในหลายๆ เมนู
– เบอร์เกอร์ควอเตอร์พาวเดอร์และชีส น้ำตาลเพิ่มขึ้นจาก 2.6 เป็น 10 กรัม
– ชีสเบอร์เกอร์ น้ำตาลเพิ่มขึ้นจาก 2 เป็น 6.6 กรัม เกลือเพิ่มจาก 0.4 เป็น 1.2กรัม
– เฟรนฟรายด์ไซส์ใหญ่ มีปริมาณแคลลอรี่เพิ่มจาก 335 เป็น 444 กิโลแคลอรี่
– สตรอเบอร์รี่มิลค์เชค น้ำตาลเพิ่มขึ้นจาก 48 เป็น 57 กรัม
– บิ๊ก แมค ปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้น 3 เท่า เกลือเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า
อย่างไรก็ดีไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าขนาดอาหารแต่ละเมนูมีการเปลี่ยนแปลงมากหรือน้อยลงหรือไม่และอย่างไร
ด้านตัวแทนจาก McDonald’s ได้ชี้แจงต่อกรณีนี้ว่า ยากที่จะเปรียบเทียบกันเมนูต่อเมนู เพราะทางร้านมีการปรับปรุงพัฒนาในหลายๆ ด้าน ทั้งขนาดหน่วยบริโภคของแต่ละเมนู ขนาดชิ้นแต่ละเมนู และแน่นอนว่าเรื่องคุณค่าทางสารอาหารด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อมูลสารอาหารจะได้รับการระบุอย่างชัดเจนบนกระดาษรองถาด
นอกจากนี้ McDonald’s สนับสนุนนโยบายของ Public Health England ที่ต้องการให้ควบคุมปริมาณแคลลอรี่ในแต่ละเมนูให้อยู่ระหว่าง 400-600 Cals โดยนับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา มีการลดปริมาณเกลือในแต่ละเมนูลงเฉลี่ย 35% ทั้งยังลดไขมันทรานส์จากน้ำมันทอดและไขมันอิ่มตัวลงถึง 94% และ 83% ตามลำดับ ในปัจจุบันแทบทุกเมนูของ McDonal’s มีปริมาณแคลลอรี่ไม่เกิน 500 Cals
แม้นี่จะเป็นเรื่องของ McDonald’s ในต่างประเทศ แต่ก็น่าเป็นที่สะกิดใจให้ผู้บริโภคในบ้านเราจะหันมาตระหนักและสนใจถึงคุณค่าสารอาหารจากสิ่งที่บริโภคเข้าไป ไม่เพียงแต่ฟาสต์ฟู้ดเท่านั้น (ซึ่งคนไทยไม่ได้นิยมกินเป็นอาหารหลักกันบ่อยๆ) แต่รวมไปถึงอาหารทุกๆ ชนิดรอบตัว ลองศึกษาเรื่องปริมาณสารอาหารที่เราต้องได้รับในแต่ละวัน และก่อนซื้ออะไรเพียงพลิกดูฉลากสักนิด รับรองจะช่วยให้สุขภาพคุณดีขึ้นในระยะยาวได้แน่นอน
อ้างอิง: sky, thesun, dailymail
You may be interested
คุณครูอวดของขวัญชิ้นประทับใจจากลูกศิษย์ตัวน้อยผู้ไม่มีอะไรจะให้..แต่ก็หามาให้จนได้
Sapparot - Dec 26, 2018คุณครูชั้นประถมในสหรัฐฯ อวดของขวัญชิ้นโดนใจที่ได้รับในช่วงเทศกาลแห่งความสุขจากลูกศิษย์ตัวน้อยที่แม้ตัวเองจะไม่มีอะไรก็ยังตั้งใจสรรหาของขวัญมาให้คุณครูจนได้ ถึงจะเป็นแค่มาร์ชเมลโลว์จากซีเรียลอาหารเช้าธรรมดา ๆ แต่เพราะว่ามีความตั้งใจของหนูอยู่เต็มเปี่ยมในนั้น มันเลยพิเศษที่สุดเลย
10 รูปยอดไลค์สูงสุดใน Instagram 2018
Sapparot - Dec 25, 201810 รูปยอดไลค์สูงสุดจาก Instagram ปี 2018 รวมแล้วมาจากคนดังระดับโลกเพียง 5 คนเท่านั้น โดยมีหนูน้อย Stromi ลูกสาว Kylie Jenner เรียกยอดไลค์กดหัวใจให้คุณแม่ได้อย่างดีเชียว
อาทิตย์และดวงจันทร์ Rose Céleste เครื่องประดับน่ารักจาก Dior
Sapparot - Dec 24, 2018Dior เผยโฉมแอคเซสซอรี่ชิ้นใหม่ Rose Céleste จี้กลมรูปพระอาทิตย์-พระจันทร์ งานแฮนด์เมดสุดปราณีตจากทองคำและเปลือกหอยมุก