ง่ายๆ แต่ได้ผล! คุณหมอชาวออสซี่รณรงค์เขียนชื่อ-หน้าที่บนหมวกผ่าตัด เพิ่มประสิทธิภาพการช่วยชีวิตคนไข้

คุณหมอชาวออสเตรเลียรณรงค์บุคคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในห้องผ่าตัด ให้เขียนชื่อและหน้าที่ตนเองบนหมวกผ่าตัด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะทุุกวินาทีมีค่า ต้องไม่เสียไปกับการจำชื่อไม่ได้หรือไม่รู้ใครทำหน้าที่อะไรในเวลานั้น

ด็อกเตอร์ร็อบ แฮคเค็ต วิสัญญีแพทย์จากเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย เริ่มรณรงค์ให้ทุกคนที่ทำงานในห้องผ่าตัด ต้องเขียนชื่อและหน้าที่ของตนเองลงบนหมวกผ่าตัด หลังจากที่ตัวเขาเองเคยประสบปัญหา การทำ CRP ให้ชีวิตผู้ป่วยอาการหัวใจวายต้องล่าช้าออกไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะเกิดความสับสนของผู้ร่วมการผ่าตัดจากการสั่งงานแบบไม่ระบุชื่อ ในห้องเมื่อเขาชี้ให้คนหนึ่งที่ยืนด้านหลังสุดช่วยหยิบถุงมือมาให้ แต่คนอื่นๆ ที่ยืนบังอยู่ด้านหน้าเกิดสับสนคิดว่าตนเองเป็นคนถูกวาน แม้เรื่องขลุกขลักอาจดูเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นเพราะในห้องผ่าตัดทุกๆ วินาทีมีค่าเสมอ

วิสัญญีแพทย์ท่านนี้ยังเผยว่าเขาเชื่อว่าหมอกว่า 75% จำไม่ได้ว่าใครเป็นใครหรือทำหน้าที่อะไรบ้าง เพราะในห้องผ่าตัดทุกคนต่างสวมหน้ากากปิดปากละหมวกผ่าตัด ซึ่งปิดไปเกือบทั้งใบหน้าแล้ว แถมแพทย์ผ่าตัดไม่น้อยยังทำงานให้โรงพยาบาลถึง 4-5 แห่ง แต่ละที่ก็เจอกับเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดเป็นสิบราย เป็นเรื่องยากที่จะจำว่าใครเป็นใครและทำหน้าที่อะไรบ้าง

ด้านบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ผ่าตัดโดยตรงก็ประสบปัญหานี้ในห้องผ่าตัดเช่นกัน อย่างนักศึกษาแพทย์รายหนึ่งถูกบอกให้ช่วยการในการผ่าตัดทั้งหน้าที่นี้ต้องกระทำโดยผู้ผ่านการฝึกฝนและรับรองแล้วเท่านั้น บุคคลากรรายอื่นๆ ก็มีทำงานสะดุดขลุกขลักจากการสั่งงานโดยไม่ระบุชื่อผู้รัหน้าที่เช่นกัน อีกทั้งสถานการณ์เรียกผิดเรียกถูกก็เป็นโมเมนต์น่าอายอีกด้วย

แม้ช่วงแรกๆ การเขียนชื่อและหน้าที่ตัวใหญ่ๆ ไว้บนหมวกจะถูกมองอย่างขำขัน แต่ในไม่ช้าทุกคนก็เห็นว่ามันมีประโยชน์และได้ผลจริงๆ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคลากรที่ทำงานด้วยกันด้วย จวบจนตอนนี้การรณรงค์ของดอกเตอร์ร็อบผ่านมา 6 เดือนแล้ว นับว่าประสบความสำเร็จไม่น้อ เมื่อแพทย์จากหลายโรงพยาบาลทั้งในออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ยุโรป และแอฟริกาใต้ ต่างใส่หมวกผ่าตัดที่ระบุชื่อและหน้าที่ของตัวเอง และยังช่วยกันรณรงค์ด้วยการแชร์รูปตัวเองสวมหมวกประจำตำแหน่งผ่านแท็ก #TheatreCapChallenge

เห็นอย่างนี้แล้วต้องบอกว่าการเปลี่ยนแปลงจากจุดเล็กๆ ก็ทำให้เกิดผลอันที่ยิ่งใหญ่ได้จริงๆ นะ 😀

ที่มา: SMH, Dailymail
ภาพ: @patientsafe3, #TheatreCapChallenge