รณรงค์แบบนี้ดี! รพ.หัวเฉียววอนปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่อย่างสุภาพ เพราะทุกคนเท่าเทียมกันทั้งผู้รับ-ให้บริการ

เพจดังแชร์ภาพโปสเตอร์หน้าลิฟต์โรงพยาบาลหัวเฉียว นำร่องปกป้องบุคลากรของตนเอง วอนผู้ใช้บริการปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่อย่างสุภาพเช่นกัน เพราะทุกคนสำคัญเท่าเทียมกันไม่ว่าผู้รับหรือให้บริการ

ภาพดังกล่าวมาจากโพสต์ของเฟซบุ๊ก Infectious ง่ายนิดเดียว เพจที่ให้ความรู้เรื่องการแพทย์และยา ที่เห็นแล้วก็ชื่นใจแทนคนในของโรงพยาบาลหัวเฉียว และเชื่อว่านี่คือสิ่งที่คนที่ทำงานในโรงพยาบาลทุกคนอยากได้ยิน โดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐที่บุคคลากรทางการแพทย์ที่มีอย่างจำกัดต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อรองรับผู้ป่วยมากมายที่เข้ามารับการรักษา

เรียนท่านผู้รับบริการทุกท่าน ท่าน คือ คนสำคัญของโรงพยาบาลเช่นเดียวกันกับบุคคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลมีความภาคภูมิใจและยินดีที่ได้ให้บริการผู้รับบริการทุกท่านด้วยความสุภาพและเคารพในตัวผู้รับบริการทุกท่าน

หากทางโรงพยาบาลให้บริการท่านไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ท่านสามารถให้คำแนะนำแก่ทางโรงพยาบาลผ่านศูนย์รับข้อเสนอแนะได้ เพื่อที่ทางโรงพยาบาลจะได้ช่วยเหลือท่านและปรับปรุงบริการ

ทางโรงพยาบาลขอให้ท่านผู้รับบริการปฏิบัติต่อบุคคลากรทางการแพทย์ของทางโรงพยาบาลด้วยความสุภาพและเคารพในตัวผู้ให้บริการด้วยเช่นกัน

ในกรณีที่ท่านปฏิบัติต่อบุคคลากรของโรงพยาบาลด้วยความไม่สุภาพไม่ให้เกียรติ ทางโรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการแก่ท่าน

ดูจากเหตุการณ์ดราม่าหลาย ๆ กรณี ที่ฝ่ายผู้รับบริการไม่ว่าจะเป็นญาติหรือตัวผู้ป่วยเองออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการรักษาและบริการ ทั้งที่ต่อว่าบุคลากรโรงพยาบาลไม่ใส่ใจ ไม่ได้รับการบริการและการรักษาอย่างที่คาดว่าจะได้รับ ในด้านหนึ่งนี่คือการสะท้อนปัญหาที่ผู้ใช้บริการได้เผชิญอย่างตรงไปตรงมา ว่าเขาขัดข้องหมองใจตรงไหน เพื่อให้คนในที่เกี่ยวข้องเก็บคำติชมไปปรับปรุง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่ามันก็สะท้อนปัญหาที่บุคคลากรของโรงพยาบาลต้องเผชิญด้วย ว่าไม่ว่าจะก้มหน้าก้มตาทำงานกันอย่างไรก็ไม่อาจสร้างความประทับใจและพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการได้เลย

และที่ย่ำแย่ที่สุด คือการถูกองค์กรของตนเองทอดทิ้งให้กลายเป็นเหยื่อของสังคม ที่ถูกคนรุมจิกด่าว่าให้บริการไม่ดี ไม่มีการออกมาปกป้องหรือชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงสาเหตุที่มาที่ไปของปัญหาที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร ทั้งที่คนในด้วยกันน่าจะเข้าใจกันมากที่สุด จนจุดนี้บั่นทอนขวัญและกำลังใจของบุคลากรทางการแพทย์มานักต่อนักแล้ว

การได้เห็นโรงพยาบาลสักแห่งออกมาแสดงจุดยืนให้ความสำคัญแก่บุคลากรทางการแพทย์ของตนเท่าเทียมกับผู้ใช้บริการ ทั้งยังขอความร่วมมือท่านผู้ใช้บริการให้ปฏิบัติต่อบุคลากรของตนอย่างเคารพและให้เกียรติ จึงนับเป็นเรื่องน่าชื่นใจและน่าชื่นชมอย่างยิ่ง และแม้ว่าหัวเฉียวจะเป็นโรงพยาบาลเอกชน มีระบบการบริหารที่อาจแตกต่างไปจากโรงพยาบาลรัฐ แต่เราก็แอบหวังว่าผู้บริหารโรงพยาบาลรัฐทั้งหลายจะมองเห็นความสำคัญในประเด็นนี้ไม่ต่างกัน

การแก้ปัญหาบุคลากรไม่พอเพียงหรือขาดแคลนงบประมาณคงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที แต่การให้กำลังใจ ทำให้บุคลากรับรู้ตนเองเป็นส่วนสำคัญและมีความหมายกับองค์กร ไม่น่าเป็นเรื่องยากเกินไป และเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศการทำงานได้มากทีเดียว ขอฝากไว้เผื่อจะไปถึงหูใครที่เกี่ยวข้องบ้าง…