นี่แค่น้ำจิ้ม! ส่อง 12 ชุดประจำชาติสุดปัง บนเวที Miss Grand Thailand 2017

ยิ่งขยับเข้าใกล้วันตัดสินของเวทีขาอ่อน Miss Grand Thailand 2017 มากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าความร้อนระอุจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (5 กรกฎาคม 2560) ที่เป็นรอบเปิดตัวชุดประจำชาติของสาวงามตัวแทนจากทั้ง 77 จังหวัด ก็ได้เห็นความทุ่มเทอย่างเต็มที่ของเหล่าทีมงานนางงามที่เนรมิตชุดให้ออกมางดงามและสื่อความหมายถึงเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดให้ได้ครบถ้วนที่สุด

ส่วนทีมงานสับปะรดได้ลองคัดเลือก 12 ชุดออเดิร์ฟ มาเสิร์ฟให้ท่านผู้อ่านได้ชมความเป๊ะปังอลังการของชุดประจำชาติบนเวที Miss Grand ซึ่งชุดไหนจะถูกใจบ้าง รีบมาชมกัน!

อันดับแรกเปิดมาด้วยความว้าว! เมื่อสาวงามจากเมืองผลไม้ จังหวัดจันทบุรี เปิดตัวมาในชุด “King of Fruit” จาก ‘ทุเรียน’ ราชาแห่งผลไม้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพืชพันธุ์ของภาคตะวันออก ชุดมีความล้ำสมัย นำเสนอให้เห็นถึงทุเรียนในทุกๆ มิติ ตั้งแต่ลูกทุเรียนที่มีหนามแหลมคมภายนอก เข้าไปสู่เนื้อทุเรียนที่หอมหวานภายในและโรยปิดท้ายด้วยดอกทุเรียนสีทองอร่าม ทำให้เกิดมิติใหม่ของการทำชุดประจำชาติ

ต่อด้วยตัวแทนสาวเมืองประจวบคีรีขันธ์ มาในชุด “สุวรรณนพคุณ” แรงบันดาลใจจากพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ในถ้ำพระยานคร รวมถึงทองคำบริสุทธิ์ที่เรียกว่าทองเนื้อเก้าหรือทองนพคุณ อันเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นทองคำที่เนื้อดีที่สุดในประเทศไทย และทะเลที่สวยงามทอดยาวจากเหนือจรดใต้ของจังหวัด นับเป็นอัญมณีที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง รวมออกมาเป็นชุดสุวรรณนพคุณ

ขณะที่สาวเมืองกรุง ตัวแทนสาวงามจากจังหวัดกรุงเทพมหานคร มาในลุคงามสง่าสีดำ ชื่อชุด “นวมินทร์บูชา” ส่งเสด็จองค์ราชันย์ของแผ่นดินสู่สวรรคาลัย มวลเทพชุมนุมรอบฐานไม้พระเมรุมาศทองรับเสด็จ เทพธิดาอัญเชิญพานพุ่มเป็นมงคล ถวายเป็นนวมินทร์บูชาแล

ตามมาด้วยชุดประจำชาติแหวกแนวเก๋ไก๋ไม่แพ้ใคร ชุด “นิลมังกรนารี” จากจังหวัดระยอง เมืองสุนทรภู่นั่นเอง โดยหยิบยกเอา ‘ม้านิลมังกร’ สัตว์พาหนะคู่ใจของสุดสาคร จากวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณี มาออกแบบจากคำกล่าวที่ว่า เขี้ยวเป็นเพชร เกล็ดเป็นนิล ลิ้นเป็นปาน ซึ่งชุดนี้ส่งเสริมให้หญิงสาวที่สวมใส่นั้น มีความสง่างาม ลึกลับ ชวนหลงใหล และทรงพลังดั่งม้านิลมังกร

ส่วนสาวจังหวัดบึงกาฬ ก็ไม่ยอมแพ้ยกเอากองทัพพญานาคมาขึ้นสู้บนเวทีในชื่อชุด “เวียงนาคินทร์” ไอเดียจากความเชื่อที่ว่าจังหวัดบึงกาฬมีสถานที่สำคัญคือสะดือแม่น้ำโขงเชื่อกันว่าเป็นเมืองบาดาลที่อาศัยของพญานาค จึงเป็นแรงบันดาลใจของชุดเวียงนาคินทร์ สะท้อนถึงความศรัทธาในงานศิลปะ และผสานกับความอ่อนช้อยสรีระของสตรีดั่งพญานาคที่มีชีวิต

ข้ามจากเรื่องสัตว์ในวรรณคดี สัตว์ในตำนาน มาพักเบรกสายตากันนิดด้วยชุด “วีรนารี” งามสง่าห้าวหาญด้วยผ้าลายพราง จากจังหวัดชุมพร แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ยุวชนทหาร ที่ ต.ท่ายาง ในรูปแบบของชุดไทยนางรำ ที่ตัดเย็บด้วยผ้าลายพรางทหาร แสดงถึงความอ่อนช้อยสวยงามของสตรีไทย ที่แฝงไปด้วยความรักชาติด้วยความเข้มแข็ง เพื่อระลึกเชิดชูเกียรติภูมิในความกล้าหาญของเหล่ายุวชนทหาร ร่วมต่อสู้ฝ่ายข้าศึกญี่ปุ่น จนได้รับชัยชนะ และถูกจารึกเล่าขานเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทย

ขณะที่ชุดสวยงามอลังการระยิบระยับก็ยังได้รับความนิยมบนเวทีแห่งนี้ โดยตัวแทนสาวงามจากจังหวัดกระบี่ มาในชุด “ปันนคนาสน์อินทรีย์” (ปัน-นะ-คะ-นาด-อิน-ซี) แรงบันดาลใจจากนกอินทรีย์ทะเลท้องขาว ที่เป็นประติมากรรมอยู่ใจกลางเมืองกระบี่ แสดงถึงวิสัยทัศน์ ความรอบรู้กว้างไกล ความพอเพียง ดั่งคำที่ว่าบินให้สูง มองให้ไกลไปให้ถึง นอกจากนี้ วัสดุในการทำชุดกว่า 90% มาจากยางพารา เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจราคายางตกต่ำ นำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวสวนยางพารา

ต่อกันด้วยสาวงามจากจังหวัดอุดรธานี มาในลุคของเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง “BAN CHIANG OF THAILAND” จากแนวความคิดพื้นบ้านสู่แหล่งอารยธรรมแห่งสยาม มากกว่า 5,000 ปี จนได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นมรดกโลก หนึ่งเดียวในประเทศ คือเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง แห่งอุดรธานี มาถ่ายทอดเรื่องราวสืบทอดอารยธรรมเอกลักษณ์ที่ชัดเจนบนเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง

ส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ปีนี้ขอมาแบบประยุกต์ผสมผสานความอ่อนช้อยและความเข้มแข็งในชุด  “อนุสรณ์แห่งสันติภาพ” แรงบันดาลใจจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว สัญลักษณ์แห่งสันติภาพที่ทั่วโลกรู้จัก จุดเด่นคือการนำเอารูปทรงและลวดลายของโครงสะพาน มาตกแต่งบนตัวชุด มีการผสมผสานลายไทยมาใช้เป็นเครื่องประดับ ที่แสดงออกถึงรากเหง้าความเป็นไทย ปีกที่โบยบินพร้อมดวงแก้ว เพื่อนำพาดวงวิญญาณของเหล่าเชลยศึกไปสู่อิสรภาพ

มาถึงจังหวัดเชียงใหม่ งดงามในแบบชาวเขาตามชื่อชุด “มนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา” จากวิถีชีวิตชนเผ่าอันผูกพันกับธรรมชาติ นำผ้าฝ้ายทอมือยกดอกจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ที่มีลวดลายสวยงามผสมผสานด้วยผ้าปักชาวเขาอย่างประณีต ตกแต่งด้วยเครื่องประดับเงินอันเลื่องชื่อแห่งชุมชนวัวลาย หัตถกรรมฝีมือช่างสิบหมู่หล่อหลอมเป็นเชื้อชาติพันธุ์ล้านนามนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา

ตามมาด้วยชุด “อัครศาสตร์ศิลป์ท้องถิ่นสุวรรณภูมิ” ของตัวแทนสาวงามจากจังหวัดชลบุรี แรงบันดาลใจจากปราสาทสัจธรรมซึ่งเป็นปราสาทไม้ทั้งหลัง บ่งบอกถึงเรื่องราวความเป็นมาของทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนเป็นที่มาของศาสนา จริยธรรม ปรัญญา อริยธรรม ถ่ายทอดผ่านลวดลายการฉลุไม้โดยก่อกำเนิดโลกทั้ง 7 และพรหมวิหาร 4 ชุด ตกแต่งด้วยลวดลายอันวิจิตรงดงามตระการตา ซึ่งหมายถึงความหลากหลายของการกำเนิดโลกและธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ

ปิดท้ายด้วยการจุดบั้งไฟของสาวงามจังหวัดยโสธร ในชื่อชุด “นารีศรียโส บั้งไฟโก้สู่สากล” ยโสธรเมืองเกษตรอินทรีย์ วิถีชีวิตคนอีสาน สู่ชุดประจำชาติที่บ่งบอกความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ของยโสธรที่โด่งดังไปไกลทั่วโลก คือประเพณีบุญบั้งไฟ และการร้อยมาลัยข้าวตอก รวมถึงผ้าขาวม้าสีสันที่สดใสที่บ่งบอกถึงความเป็นอีสานได้เป็นอย่างดี