กระรอกน้อยแสนรู้! วางใจอุ้มท้องมาคลอดลูกในบ้านของคนที่เคยช่วยชีวิต

ถึงแม้มนุษย์อาจจะไม่สามารถเข้าใจภาษาของสัตว์จนพาลคิดไปว่าพวกมันไม่รู้ความรู้สึกนึกคิดเช่นเรา แต่เหตุการณ์หลายต่อหลายครั้งอาจทำให้เราเริ่มคิดว่าพวกมันอาจจะเฉลียวฉลาดมากกว่าที่คิด เหมือนอย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Simone Serfontein สาวสวยที่อาศัยอยู่ใน Kruger National Park แอฟริกาใต้ กับเจ้ากระรอกน้อยตัวหนึ่งที่มีความรักความผูกพันกันในทุกช่วงเวลาชีวิต

ย้อนกลับไปวันอากาศหนาวและลมแรงของปี 2016 ระหว่างที่ Serfontein อยู่ที่บ้านเพื่อนของเธอ เกิดบังเอิญเจอกับเจ้าลูกกระรอกตัวจิ๋วในสนามหญ้าซึ่งคาดว่ามันหล่นลงมาจากรังบนหลังคา ตอนนั้นเจ้ากระรอกตัวเย็นเฉียบแต่ยังพยายามเรียกร้องหาแม่ของมัน แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ Serfontein จึงตัดสินใจพามันกลับบ้านเผื่อว่าจะช่วยให้รอดชีวิต โดยในช่วงเวลาวิกฤตนั้น เธอและแฟนหนุุ่ม Christof จำเป็นต้องช่วยกันศึกษาวิธีการเลี้ยงกระรอกนับตั้งแต่การป้อนอาหาร การให้ความอบอุ่น การทำรังเล็กๆ ในกล่องรองเท้าให้มันนอน

Serfontein พบลูกกระรอกน้อยนอนนิ่งในสนามหญ้าของบ้านเพื่อนเธอ ในปี 2016

จากนั้น Serfontein ก็พาเจ้ากระรอกน้อยที่ได้ชื่อใหม่ว่า ‘Dingetjie’ ไปทำงานด้วยทุกวันตลอดระยะเวลาสามเดือน และเมื่อมันแข็งแรงดีแล้วก็ถึงเวลาบอกลาให้มันได้กลับสู่ธรรมชาติที่ที่มันควรอยู่ แต่เรื่องกลับไม่ได้จบแค่ตรงนี้ เพราะเจ้า Dingetjie ดูเหมือนจะผูกพันกับพวกเขามากพอๆ กับที่ Serfontein รู้สึก มันจึงแวะเวียนเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านของพวกเขาและป่า จนสุดท้ายเธอจึงเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้เพื่อให้เจ้ากระรอกแสนรู้เข้ามาตามที่ต้องการ

“Dingetjie รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและอบอุ่น” Serfontein กล่าว

จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเขารู้สึกว่า Dingetjie วัย 6 เดือน ดูอ้วนขึ้นผิดปกติ และแน่นอนเธอกำลังตั้งท้อง! ซึ่งช่วงระยะเวลาสำคัญนี้เจ้ากระรอกก็เลือกที่จะทำรังในลิ้นชักโดยใช้กระดาษชำระมาปูเพิ่มความอบอุ่นอยู่ในบ้าน แต่น่าเสียดายที่มันยังเด็กเกินไปจึงต้องเสียลูกน้อยในการท้องครั้งแรก

และข่าวดีก็มาถึงอีกครั้งช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อมันคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย และตอนนี้ทั้งคุณแม่ Dingetjie และลูกน้อยก็ดูมีความสุขมากๆ เอาทีเดียว ซึ่ง Serfontein เองก็รู้สึกว่าเธอก็ไม่อาจอธิบายความสัมพันธ์สุดประหลาดแต่แน่นแฟ้นนี้ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่างเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อเอามากๆ

ที่มา: The Dodo