ปิดดีล! Uber ขายกิจการทั้งหมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งไทยให้ Grab

Grab เผยแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ในช่วงเช้าวันที่ 26 มีนาคม 2561 ว่าได้บรรลุข้อตกลงกับ Uber ในการรวบกิจการทั้งหมดของ Uber ทั้ง Uber app และ Uber Eat ที่ดำเนินการอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เข้าไว้กับตนเองแล้ว

ภายใต้ดีลอันไม่เปิดเผยมูลค่าระหว่าง Grab และ Uber ในการซื้อกิจการอูเบอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังรวมถึงการแลกเปลี่ยนที่ Uber ได้เข้าถือหุ้น 27.5% และซีอีโอของอูเบอร์ Dara Khosrowshahi จะเข้ามานั่งบอร์ดบริหารของ Grab ด้วย ขณะพนักงานเดิมของ Uber ก็จะถูกโยกย้ายเข้ามาใน Grab เช่นกัน

แอพพลิเคชั่น Uber สำหรับเรียกรถจะสามารถใช้ได้ต่อไปอีก 2 อาทิตย์นับจากนี้ โดยระหว่างนี้ผู้ขับอูเบอร์สามารถมาลงทะเบียนในระบบ Grab ส่วน Ubr Eats จะให้บริการไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นพาร์ทเนอร์ทั้งร้านอาหารและผู้ส่งอาหารจะถูกย้ายเข้ามาในแพลตฟอร์ม GrabFood

Dara Khosrowshahi ซีอีโอของ Uber  ระบุว่าการ ตัดสินใจขายกิจการนี้ไม่ใช่กลยุทธ์หลัก แต่ปัญหาคือบริษัทซึ่งดำเนินกิจการในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกต้องรับศึกหลายทางจากคู่ต่อสู้หลายเจ้ามากเกินไป จนกระทบกับต่อการโฟกัสและให้น้ำหนักในตลาดหลัก และแม้ว่าการควบรวมและจัดสรรทรัพยากรจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของบริษัท แต่จากนี้ต่อไป Uber จะให้ความสำคัญกับ organic growth นั่นคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลก

ทั้งนี้ Grab เริ่มต้นในสิงคโปร์เมื่อปี 2012 และค่อยๆ เติบโตขึ้นจนปัจจุบันมีให้บริการอยู่ใน 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนับเป็นผู้ให้บริการเรียกรถเจ้าใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ส่วน Uber เริ่มต้นในปี 2009 จากเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ และค่อยๆ ขายกิจการออกไปในหลายเมืองทั่วโลก โดยในระยะที่ผ่านมาอูเบอร์เคยขายกิจการตนเองให้ผู้ให้บริการท้องถิ่นมาแล้ว คือขายให้กับบริการเรียกรถ Didi Chuxing ของจีนเมื่อปี 2016 และ Yandex ของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ที่มา: Grab, Uber, BBC