ซีเกมส์ 2017 รวมเคสมาเลเซีย-ไทย กับสปิริตเจ้าภาพที่หายไป!?

กระแสกีฬาซีเกมส์ 2017 กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างดุเดือดอย่างมากในขณะนี้ ทว่าเรื่องในประเด็นกลับไม่ใช่เรื่องความเข้มข้นในเกมการแข่งขัน แต่เป็นเรื่องพฤติกรรมของเจ้าภาพอย่างมาเลเซีย ที่ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าบ้านแสดงสปิริตเจ้าภาพในรูปแบบนี้จริง ๆ หรือ ไม่ว่าแต่ละเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม

– ไม่ถ่ายทอดสดกีฬาที่ตนไม่มีลุ้นเหรียญ กรณีนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากตั้งแต่ตอนเป็นกระแสข่าวลือก่อนเปิดการแข่งขัน 2017 ซึ่งต่อมาเป็นที่ยืนยันว่าข่าวลือเป็นจริงไม่ใช่โคมลอย มาเลเซียไม่ผลิตสัญญาณถ่ายทอดการแข่งขันไปต่างประเทศ ทำให้คนไทยเซ็งไปตาม ๆ กันที่จะไม่ได้รับชมกีฬาฮิตที่หลายคนตามเชียร์อย่างฟุตซอลและวอลเลย์บอลหญิง แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดมีการเจรจาและฝ่ายมาเลเซียยินยอมปล่อยสัญญาณถ่ายทอดสดวอลเลย์บอลหญิงที่จะจัดแข่งในวันที่ 23 ส.ค.นี้ ให้ไทยแล้ว (ที่มา: sanook)

– ไม่ส่งรถบัสมารับนักกีฬาฟุตซอลหญิงในวันที่ 17 ส.ค. แม้มีการแจ้งขอรถแล้ว ทำให้ทางทีมต้องจัดการโบกแท็กซี่ไปกันเอง จนถึงสนามล่าช้าไป 1 ชั่วโมง ซ้ำเมื่อถึงสนามยังถูกเปลี่ยนเวลาซ้อม ทำให้ต้องรออีก 2 ชั่วโมง และเสียค่าสนามเองอีก 500 บาท ส่วนฟุตซอลชายก็เจอปัญหาไม่มีรถเช่นกัน (ที่มา: thairath)

– นักกีฬาฟุตซอลไม่มีข้าวกลางวันในวันซ้อม วันที่ 19 ส.ค. ทีมฟุตซอลไทยได้แจ้งโรงแรมที่พักจะออกไปทำการฝึกซ้อมที่สนาม และจะกลับมารับประทานอาหารกลางวันในเวลา 15.00 น. แต่ทางโรงแรมแจ้งว่าไม่มีอาหารบริการในเวลานั้นและไม่สามารถทำสำรองให้ได้ จึงขอเปลี่ยนให้นำกับข้าวในส่วนของทีมชาติไทยใส่กล่องเก็บไว้แทน ทางโรงแรมก็ระบุว่าหากต้องการข้าวกล่องต้องแจ้งล่วงหน้า 2 วัน (ที่มา: siamsport)

ในส่วนนี้แม้มองว่าเป็นความผิดแต่เฉพาะทางโรงแรมเท่านั้น ก็ไม่อาจว่าได้เต็มปาก เพราะผู้จัดหาโรงแรมย่อมเป็นหน่วยงานของเจ้าภาพของมาเลเซีย และยิ่งเป็นโรงแรมสำหรับนักกีฬาก็ยิ่งต้องคำนึงถึงเรื่องการบริการอาหารและเครื่องดื่มอย่างเหมาะสม ส่วนเรื่องขออาหารนอกเวลา แม้ไม่เป็นไปตามกฎแต่ แต่หากคำร้องขอมีเหตุผลเพียงพอก็เห็นว่าควรยืดหยุ่นได้หากไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่จะทำ อย่างน้อยก็ควรทำเพื่อรักษาหน้าในฐานะเจ้าภาพ

– นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงรอแกร่วรถบัสไปรับช้า-อาหารเช้าไม่เพียงพอ ทีมนักกีฬาตบลูกยางของไทยเดินทางถึงมาเลเซียตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 19 ส.ค. แต่เวลาผ่านไปจน 14.30 น. แล้วก็ยังไม่มีวี่แววรถบัสเจ้าภาพมารับเพื่อเดินทางเข้าที่พัก ส่วนในเช้าวันถัดมาก็มีเรื่องให้งงอีกยก  เมื่ออาหารเช้าที่โรงแรมที่พักจัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอต่อนักกีฬา จนกับตันกิ๊ฟโพสต์ขำ ๆ ว่า สงสัยนักกีฬากินกันเยอะอาหารเลยไม่พอ

บิน 09.00น. ถึงมาเล 12.00น. ณ เวลานี้ 14.30น. เรายังรอรถมารับอยู่ที่เดิมค่าา #อดทนอดทนอดทน #งงใจกับฝ่ายจัดรอรถบัสมารับวนไปจ๊ะ

A post shared by Wilavan Apinyapong (@wilavan10) on Aug 18, 2017 at 11:31pm PDT

อาหารว่างเช้านี้ กับข้าวหมดจ๊ะ รอต่อไป ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เตรียมให้พอ นักกีฬาพักเป็นฝูง แต่ก็เข้าใจ รร นะ คงเคยทำเลี้ยงแต่คนปกติ นี่นักกีฬา กินเยอะ โปรดเข้าใจ😂😂

A post shared by Wilavan Apinyapong (@wilavan10) on Aug 19, 2017 at 6:49pm PDT

– ไม่อำนวยความสะดวกให้นักกีฬายิงธนูผู้พิการ ต้องเดินไปเก็บลูกธนูเอง รายงานในวันที่ 20 ส.ค. เผยว่าเจ้าภาพใช้กฎกีฬายิงธนูต่างไปจากสากล คือไม่มีการอำนวยความสะดวกให้แก่นักกีฬาผู้พิการที่ลงสนามร่วมกับบุคลปกติ (กีฬายิงธนูใช้กล้ามเนื้อช่วงบนและสายตาเป็นหลัก จึงให้ผู้พิการที่ร่างกายไม่มีอุปสรรคในการใช้ร่างกายช่วงบนร่วมแข่งขันได้) ทำให้นักกีฬายิงธนูไทยซึ่งเป็นผู้พิการโรคโปลิโอต้องไปเก็บลูกธนูเอง แม้ตัวนักกีฬาเองจะเข้าใจและยอมรับในกฎของฝ่ายเจ้าภาพ แต่ก็ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู้ไม่น้อยว่าเจ้าภาพทำเกินไป โดยมีรายงานว่าสิงคโปร์ไม่ส่งผู้เล่นที่นั่งวีลแชร์ของตนร่วมแข่งขันหลังได้ทราบกฎดังกล่าว (ที่มา: thairath)

– แบนนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ไทย แต่ไม่แบนนักกีฬาตนเองทั้งที่เข้าข่ายเช่นกัน วันที่ 20 ส.ค. มีรายงานว่า เอ็ดวิน ซินเบอร์น นักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติ ลูกครึ่งไทย-สวีเดน ถูกแบนไม่ให้ร่วมการแข่งขัน เนื่องจากตกคุณสมบัติข้อที่ว่าต้องอาศัยอยู่ในประเทศทีมชาติของตนมากกว่าอยู่ต่างประเทศ ขณะที่มาเลเซียก็มี คิม โล้ก ที่ปัจจุบันเล่นในลีกอาชีพที่สวีเดนและอาศัยอยู่ในสวีเดนมากกว่ามาเลเซีย แต่กลับไม่ถูกแบน (ที่มา: siamsport)

ส่วนหลังจากนี้ไปจนกว่าจะถึงวันปิดการแข่งขันซีเกมส์ 2017 ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ จะมีข่าวชวนส่ายหัวจากเจ้าภาพออกมาอีกหรือไม่ก็ยังเป็นที่ต้องติดตาม แต่ยังไงเราเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยทุกท่าน สู้เต็มที่ด้วยสปิริตและน้ำใจนักกีฬา แม้ผลแพ้ชนะเราอย่างไรเราเชื่อว่าทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจกันอย่างเต็มที่เพื่อประเทศไทยแล้ว ไทยแลนด์สู้ ๆ 😀

ภาพ: เฟซบุ๊ก Futsal Thailand – ฟุตซอลไทยแลนด์