กพท.เบรกสายการบินปรับราคาเหมาจ่าย ย้ำต้องให้ราคาสะท้อนต้นทุนตามจริง

จากกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปรับขึ้นภาษีสรรพาสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินและน้ำมันหล่อลื่นมีผลตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้สายการบินหลักในประเทศทยอยขึ้นราคาค่าโดยสารกันถ้วนหน้า เริ่มตั้งแต่ 150-200 บาท/ท่าน/เที่ยวบิน ล่าสุด ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังสายการบินระบุให้เรียกเก็บค่าโดยสารเพิ่มเพื่อชดเชยค่าภาษีสรรพสามิตเท่านั้น และต้องไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารที่ กพท.กำหนด เพื่อให้มีความเป็นธรรมและสอดคล้องกับต้นทุนที่ปรับขึ้นจริงเท่านั้น

ทั้งนี้ การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินเป็น 4 บาทต่อลิตร เข้าใจว่าทางสายการบินจำเป็นต้องปรับราคาแต่ต้องไม่กระทบผู้โดยสาร ส่วนบางสายการบินขอให้ทบทวนค่าโดยสารตามต้นทุนที่เพิ่มจริงตามเพดานที่กำหนด ไม่ใช่ประกาศบวกเพิ่มค่าภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 150 บาท/ท่าน/เที่ยวบิน ทั้งที่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอาจจะไม่ถึง 150 บาท นอกจากนี้ แต่ละสายการบินใช้เครื่องบินไม่เหมือนกัน ความจุต่างกัน ต้นทุนจะไม่เท่ากัน จะขึ้นเท่ากันไม่ได้

อย่างไรก็ตาม กพท.มีการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสาร โดยมีเพดานขั้นสูงไว้เพื่อควบคุม เช่น ระยะทางไม่เกิน 300 กม. อัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 13 บาท/กม. ดังนั้นหากระยะทาง 500 กม. ค่าโดยสารต้องไม่เกิน 6,500 บาท ซึ่งการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินจาก 20 สต.เป็น 4 บาท/ลิตร เฉลี่ยแล้วสายการบินจะมีต้นทุนเพิ่ม 4-6.5 บาท/ลิตร เพราะนอกจากภาษีสรรพสามิตแล้วยังมีภาษีท้องถิ่นอีก 1 บาทกว่า (ขึ้นกับพื้นที่ตั้งของสนามบิน) และภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย โดยในเดือน ม.ค.ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินเติมที่สนามบินประมาณ 20 บาท/ลิตร ในเดือน ก.พ.จะปรับเป็น 26-33 บาท/ลิตร

ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์