สนข.เผย ปี 58 กรุงเทพฯ รถติดหนัก เหตุขยันถอยรถใหม่-งานก่อสร้างกระทบจราจร

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เผยผลสำรวจสถิติอัตราความเร็วเฉลี่ยของรถยนต์ส่วนบุคคลในเขตกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2558 พบว่าภาพรวมอัตราความเร็วเฉลี่ยของรถยนต์ลดลงจากปี 2557 ทั้งในช่วงเช้า (เข้าเมือง) และช่วงเย็น (ออกเมือง) โดยในเวลาเร่งด่วนช่วงเช้า (06.00-09.00 น.) อัตราความเร็วเฉลี่ยของรถอยู่ที่ 15 กม./ชม. ส่วนเวลาเร่งด่วนช่วงเย็น (16.00-19.00 น.) อยู่ที่ 22 กม./ชม.

สำหรับ 5 เส้นทาง รถติดสาหัสที่สุดในกรุงเทพฯ พบว่า ในเวลาเร่งด่วนช่วงเช้า (06.00-09.00 น.) อันดับแรก ถนนกรุงธนบุรี (กรุงธนบุรี-สุรศักดิ์) อัตราความเร็วเฉลี่ย 5.1 กม./ชม. รองลงมา คือ ถนนพระราม 9 (รามคำแหง-พระราม 9) อัตราความเร็วเฉลี่ย 9.7 กม./ชม. ตามด้วยถนนเจริญกรุง (ถนนตก-สุรวงศ์) อัตราความเร็วเฉลี่ย 10.6 กม./ชม. ถนนสุขุมวิทชั้นใน (อโศก-นานา) อัตราความเร็วเฉลี่ย 10.8 กม./ชม. และถนนราชวิถี (บางพลัด-อุภัย) อัตราความเร็วเฉลี่ย 10.8 กม./ชม.

กลับกันในเวลาเร่งด่วนช่วงเย็น (16.00-19.00 น.) อันดับแรก ถนนเจริญกรุง (สุรวงศ์-ถนนตก) อัตราความเร็วเฉลี่ย 8.8 กม./ชม. รองลงมา คือ ถนนราชวิถี (อุภัย-บางพลัด) อัตราความเร็วเฉลี่ย 8.9 กม./ชม. ตามด้วยถนนสุขุมวิทชั้นใน (นานา-อโศก) อัตราความเร็วเฉลี่ย 10.2 กม./ชม. ถนนประชาชื่น (เฉลิมพันธ์-พงษ์เพชร) อัตราความเร็วเฉลี่ย 12.2 กม./ชม. และถนนพระราม 4 ชั้นใน (หัวลำโพง-เกษมราษฎร์) อัตราความเร็วเฉลี่ย 12.4 กม./ชม.

ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้การจราจรในกรุงเทพฯ ติดขัดมากขึ้น เนื่องมาจาก ในปี 2558 มีรถยนต์ส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น 3.67 แสนคัน เฉลี่ยวันละ 1,023 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์ก็มียอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้นถึงวันละ 1,125 คัน ส่งผลทำให้ยอดรถจดทะเบียนสะสมใน กทม. ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2558 มีมากถึง 9 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น 4.1% จากปี 2557 นอกจากนี้ พื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีการก่อสร้างทางลอด ทางด่วน และรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง ทำให้ต้องมีการปิดการจราจรบางส่วนในหลายจุดทั่วกรุง

ที่มา: โพสต์ทูเดย์