เราอาจเคยกวาดสายตาไปเจอชื่อของอะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม บนบรรทัดตำแหน่งคนแต่งคำร้องในเพลง ‘ปล่อย’ ของป็อป-ปองกูล ก่อนละสายตาไปจากหน้าจอ อินไปกับบทเพลง และลืมเลือนตัวอักษรนั้นไป

จนกระทั่งเมื่อต้นปี เราได้มาเห็นชื่อนี้อีกครั้งในซิงเกิ้ล ‘PLEASE’ ที่อะตอมย้ายมาอยู่ในฐานะนักร้องหน้าใหม่ ยอดวิวใน YouTube กว่า 42 ล้านวิวยืนยันได้ว่าเพลงนี้ฮิตแค่ไหน

มาวันนี้ อะตอมกลับมาอีกครั้งในซิงเกิ้ลที่สอง ‘แผลเป็น’ แผลบาดลึกที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ มองเมื่อไหร่ก็หวนนึกถึงภาพความรักในวันวานที่ผ่านไปแล้ว เพลงที่กลั่นมาจากเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาที่เขาจรดปากกาและเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยตัวเอง

ก่อนบาดแผลจะสร้างรอยช้ำอีกครั้ง เราอยากให้เขามาเล่าที่มาที่ไปของแผลนี้ให้ฟังหน่อย

ช่วยเล่าเรื่องราวของซิงเกิ้ลที่สอง ‘แผลเป็น’ ให้เราฟังหน่อย

เพลงนี้เป็นเพลงที่เล่าเรื่องแผลเป็นในใจของคน เปรียบเทียบมาจากแผลเป็นบนร่างกายเนี่ยแหละ อย่างตัวผมเองก็มีแผลเป็นที่หัวเข่าเพราะทำมีดบาดตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งแผลมันก็หายไปนานแล้ว แต่ว่าพอเราเห็นมันก็จดจำได้ทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซุ่มซ่ามยังไง ไปโรงพยาบาลไหน เราก็เลยเอามาเขียนเป็นเพลงนี้ขึ้นมา ตีความออกมาว่าแผลในใจก็เป็นแบบนี้เหมือนกันนะ เหมือนถูกทำร้ายมา แต่ผ่านมานานแล้ว ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว แต่ก็ยังจำทุกเหตุการณ์ได้อยู่

แสดงว่ามีรักฝังใจเลยทำให้เกิดแรงบันดาลใจเป็นเพลงนี้ใช่มั้ย

คือตอนที่เราเขียนเพลง เราก็ยังนึกถึง ยังจดจำรายละเอียดของมันได้ บางคนบอกว่านานๆ ไปก็ลืม จริงๆ มันแค่หายเจ็บ หายรู้สึก ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ กินนอนไม่ได้ อย่างนั้นมากกว่า แต่ถ้าถามถึงเรื่องเก่าๆ เราก็ยังตอบได้นะ ผมว่าคนทุกคนยังจำรายละเอียดพวกนี้ได้ เพียงแต่เราไม่พูดถึงเท่านั้นเอง

สรุปคือเพลงนี้คือการสะท้อนอารมณ์ความรักของอะตอม

ก็…ส่วนใหญ่เลยล่ะ เพลงที่เขียนให้ตัวเองร้องมันค่อนข้างเป็นตัวเรามาก เป็นมุมมองของผมเกี่ยวกับความรัก จริงๆ ผมก็ไม่ได้อกหักบ่อยนะ แต่แค่ทุกครั้งมันหนัก มันก็เลยสร้างแนวคิด มุมมองความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เปลี่ยนไปกลายเป็นเพลงของเราสไตล์นี้

กระบวนการทำงานเพลงนี้ต่างกับเพลง Please ยังไงบ้าง

จริงๆ ค่อนข้างจะใกล้กันครับ คือเป็นเพลงที่เขียนตามความรู้สึกของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ด้วยตอนที่เขียนทั้งเพลง Please และเพลงแผลเป็น เราเรียนอยู่ปี 1 อายุ 19 ปี  ช่วงนั้นก็กำลังได้เจอเรื่องราวแบบนี้ เป็นความรักแบบเด็กๆ ก็มักจะเปลี่ยนผ่านเร็ว ผิดหวังกันอยู่เรื่อยๆ รักๆ เลิกๆ มันก็เลยมีบรรยากาศของความผิดหวัง ความคิดถึง ความเศร้า ซึ่งก็เป็นวัตถุดิบที่ดีให้เราได้แต่งเพลงเศร้าออกมา

ทำไมถึงยังเป็นเพลงเศร้า ไม่อยากเปลี่ยนเป็นรักสมหวังบ้างเหรอ

จริงๆ ผมเป็นคนที่เขียนเพลงเศร้าเยอะเหมือนกัน มันเป็นแนวถนัดมากกว่า เพราะเราจะชอบเขียนเพลงที่ดึงความรู้สึกเศร้า ผิดหวังออกมา ก็เหมือนนักเขียนเพลงหลายคนเขาก็ถนัดเขียนเพลงรัก แต่เราถนัดเพลงเศร้า เพลงสมหวังก็มีบ้าง แต่เป็นส่วนน้อยครับ

ตอนนี้เพลงอกหักได้รับความนิยมมาก อะตอมคิดว่าเพราะอะไร

มันกินใจแหละ ในโลกนี้ผมว่าคนผิดหวังมันมีเยอะกว่าอยู่แล้ว อยู่คนเดียวเดี๋ยวก็เหงา จิตตก คิดนั่นคิดนี่ คือคนเราน่าจะเข้าไปในอารมณ์เศร้ามากกว่ามาบอกว่า ‘เฮ้ย! ฉันมีความสุขนะ’ มันก็เลยทำให้เพลงผิดหวัง เพลงอกหัก ค่อนข้างจะกินเนื้อที่ในใจคนมากกว่าเพลงรักสมหวังสดใส

แล้วความรักในความคิดของอะตอมคืออะไร

ความรักที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดก่อนใครก็ต้องเป็นครอบครัวอยู่แล้วครับ คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว ถัดมาก็จะเจอความรักจากเพื่อน ก่อนที่จะมาเจอความรักแบบหนุ่มสาว สำหรับผมเองก็มีความรักที่ยาวนานและลึกซึ้งตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักมัน ซึ่งพอมันจบลงตอนนั้นเราก็ยังเด็ก ไม่รู้จะรับมือยังไง มันก็ทิ้งแผลเป็นไว้ให้เรา

ใน MV คิดว่าตัวแทนคนไหนที่ตรงกับเพลงและความรู้สึกเรามากที่สุด

คนที่ตรงที่สุดน่าจะเป็นพี่ผู้หญิงชื่อหงส์ พี่เค้าก็มีความรักความสัมพันธ์ที่ยาวนานลึกซึ้งเหมือนกัน เลยไปสักกับแฟน สุดท้ายพอเลิกร้างแยกทางกันไป พี่เค้าเลยไปสักทับรอยสักเดิม เป็นแถบดำๆ ดูโหดดีเหมือนกันครับ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร บาดแผลมันเกิดขึ้นแล้ว มันก็ยังจำได้อยู่

รู้สึกกดดันกับ ‘แผลเป็น’ มั้ย เพราะเพลง Please ประสบความสำเร็จมาก

ผมไม่คาดหวังว่ามันจะต้องเปรี้ยงมากกว่าเพลงที่แล้ว สำหรับผมคิดว่ามันคงดร็อปลงกว่าเพลง Please ด้วยซ้ำ เพราะมันพีคมาก เกินความคาดหมายของเราไปเยอะมากเลย ซึ่งเราก็มีมาตรฐานในใจระดับนึง ณ ตอนนั้น แต่มันทะลุขึ้นไปมาก มาซิงเกิ้ลนี้ถามว่ากดดันมั้ยก็ประมาณนึง แต่ว่าเราก็มองอย่างใจเย็น เพราะก็ทำมาเป็นปีๆ ตั้งใจจะปล่อยเป็นเพลงที่สองอยู่แล้ว

ทั้ง 2 เพลงที่ปล่อยมาบ่งบอกเอกลักษณ์ของอะตอมได้หรือยัง

เอกลักษณ์ของผมน่าจะเป็นที่เสียงร้องและสไตล์ดนตรีที่ผสมผสานระหว่างความเป็นผม และก็สไตล์ของโปรดิวเซอร์ พี่บอล อพาร์ตเมนต์คุณป้า ซึ่งเป็นวงอินดี้ที่ตัวตนชัดมาก ใครฟังก็จะรู้เลยว่าเป็นเพลงของพี่เค้า ซึ่งพอมาเจอกับผมที่ค่อนข้างเป็นป็อปสูง แต่ก็มีความชอบในเพลงแนวโซล บลูส์​ และแจ๊ส เพลงที่ออกมาก็เลยฟังดูแปลกใหม่น่าสนใจครับ

แล้วจะปล่อยซิลเกิ้ลเพลงรักๆ ซึ้งๆ เซอร์ไพรส์คนฟังได้เมื่อไหร่

อันนี้ผมก็ยังตอบไม่ได้ แต่เพลงหวานๆ โรแมนติก ผมก็มีนะ แบบผู้หญิงฟังแล้วคงขนลุกอ่ะ เคยแต่งไว้เพลงหนึ่ง เปรียบเทียบผู้หญิงกับดอกไม้ คนอื่นอาจจะมองเห็นคุณเป็นดอกไม้ริมทาง แต่ผมเนี่ยแหละจะเก็บคุณมาใส่กระถางปลูกอย่างดี พอเราโตแล้วกลับมาดูรู้สึกจั๊กจี๋ เลยเปลี่ยนมาแต่งเพลงเศร้าดีกว่า แต่ก็คิดว่าคงจะได้มีโอกาสปล่อยเพลงสมหวังมาให้ฟังบ้างครับ

หนุ่มอะตอบแอบแย้มมาแล้วว่าเพลงรักซึ้งๆ จะมีมาให้ฟังแน่นอน แต่โอกาสจะได้ฟังเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอลุ้นกันเอาเอง
 

NEW RELEASE: พูดคุยกับศิลปินที่มีผลงานใหม่น่าจับตามอง สำรวจความคิดเบื้องหลังและทัศนคติดีๆ ที่จะเปลี่ยนมุมมองบางอย่างกับคุณ
มีใครน่าสนใจหรืออยากให้สัมภาษณ์ใคร ส่งมาบอกเราได้ที่ [email protected]