จริงหรือหลอก!? หนุ่มอังกฤษเผยภาพหลอน หลักฐานถูกผีเด็กหัวบุบตามรังควาญนานนับเดือน

Adam Ellis นักเขียนการ์ตูนจากนิวยอร์ก แชร์ประสบการณ์หลอน เจอผีเด็กผู้ชายหัวบุบมาเยือนในฝันตลอดหลายเดือน เรื่องแปลกๆ รอบตัวที่เกิดขึ้นและหาคำอธิบายไม่ได้ จนล่าสุดฝันเห็นผีเด็กหัวบุบอีกครั้ง ในฝันได้ถ่ายภาพเอาไว้ แต่ปรากกฎในมือถือกลับมีภาพผีเด็กที่ถ่ายจากคืนนั้นจริงๆ!

อดัมเริ่มต้นเล่าเรื่องแปลกๆ ที่เขาพบนี้ลงในทวิตเตอร์ @moby_dickhead ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา แม้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่เขาพบจริงๆ หรือเป็นเพียงเรื่องราวที่เรียงร้อยแต่งขึ้นอย่างจงใจ แต่ก็มีผู้ติดตามเรื่องราวของเขาหลายพันคน และเขาได้รวบรวมเฉพาะทวีตที่เขาเล่าเรื่องหลอนนี้ไว้ใน storify

อดัมเล่าว่าตนคิดว่าห้องพักที่อาศัยอยู่คงจะมีผีเด็กหัวบุบสิงอยู่แน่ๆ เขาเริ่มมีความฝันแปลกๆ และแล้วความฝันประหลาดนั้นก็เริ่มเข้ามากล้ำกรายโลกแห่งความจริงของเขาด้วย มันเริ่มต้นจากการฝันเห็นเด็กชายที่มีศีรษะบุบผิดรูปไปด้านหนึ่ง นั่งจ้องมองเขาจากเก้าอี้โยกสีเขียวที่ปลายเตียง แล้วก็ค่อยๆ คืบเข้ามาใกล้กับเตียง ในฝันนั้นเขากลัวสุดขีด แต่ตัวกลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ แล้วสุดท้ายก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างหวาดผวา

นี่คือภาพลักษณะเด็กชายที่เขาเห็นในความฝัน

He had a huge misshapen head that was dented on one side. I did my best to draw it: pic.twitter.com/AJizlw7qXe

— Adam Ellis (@moby_dickhead) August 7, 2017

ความฝันครั้งนั้นคงจะไม่ทำให้อดัมหลอนถึงเพียงนี้ หากว่าในอีกไม่กี่คืนต่อมาเขาไม่ได้ฝันไปว่าตัวเองอยู่ในห้องสมุด และเจอกับเด็กหญิงคนหนึ่ง เธอถามเขาว่า “เห็นเขาแล้วใช่ไหม เดวิดที่รักน่ะ เขาตายไปแล้ว และจะปรากฏตัวตอนเที่ยงคืนเท่านั้น คุณสามารถถามคำถามเขาได้ 2 ข้อนะ แต่อย่าถามข้อที่ 3 ล่ะ ไม่อย่างนั้นเขาจะเอาชีวิตคุณ”

และแล้วเด็กชายหัวบุบก็กลับมาเยือนเขาในฝันอีก นั่งบนเก้าอี้โยกสีเขียวตัวเดิม ตอบสิ่งที่อดัมรวบรวมความกล้าถาม 2 คำถามออกไป บอกว่าเขาตายในร้านขายของแห่งหนึ่ง เพราะถูกชั้นวางของล้มใส่ศีรษะ อดัมถามต่อไปว่าใครกันที่ฆ่าเขา เด็กชายนิ่งเงียบไม่ตอบ…อดัมจึงรู้ตัวว่าเผลอถามคำถามที่ 3 ออกไปเสียแล้ว

แม้จะเป็นสิ่งที่มาจากความฝัน อดัมก็นำข้อมูลที่ได้ไปค้นหา แต่ก็ไม่พบว่ามีข่าวอุบัติเหตุชั้นวางของในร้านค้าล้มทับเด็กที่ชื่อเดวิดเสียชีวิตเลย หลังจากนั้นห้องใหญ่ชั้นบนของอพาร์ตเมนท์ที่เขาพักก็ว่างลง อดัมจึงย้ายขึ้นเช่าห้องนั้นแทน เกือบ 2 เดือนที่ย้ายมาอยู่ห้องใหม่ เหตุการณ์ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติดีจนอดัมคิดว่าเขาหลุดพ้นจากเรื่องหลอนประหลาดๆ นี้ไปได้แล้ว…แต่มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

สิ่งที่อดัมเล่าหลังจากนี้ มีตั้งแต่พฤติกรรมแปลกๆ ของแมวที่เขาเลี้ยงไว้ 2 ตัว พวกมันลุกมานั่งจ้องเฝ้าที่ประตู เหมือนรับรู้ว่ามีอะไรบางสิ่งอยู่ที่ด้านนอก บ้างจู่ๆ ก็ยืนขึ้นบนขาหลังค้างท่านั้นอยู่นาน ทำท่าเหมือนจ้องมองหรือกำลังมองหาอะไรบางอย่าง และกระโดดข้ามสิ่งที่มองไม่เห็น อดัมยังได้ลองเปิดเครื่องบันทึกเสียงทิ้งไว้ตอนกลางคืน และพบว่ามันบันทึกได้เสียงแปลกๆ เหมือนมีอะไรขยับบนพื้น และเสียงสัญญาณเหมือนคลื่นไฟฟ้าที่ดังต่อเนื่องครู่หนึ่งก็เงียบหายไป นี่เป็นสิ่งที่เขาหาคำอธิบายให้มันไม่ได้

อดัมยังพบเรื่องแปลกประหลาดที่กล้องโพลารอยด์ไม่สามารถถ่ายภาพโถงหน้าประตูห้องของเขาได้ แม้จะลองถ่ายใบใหม่ รูปที่ได้ก็ยังเป็นภาพดำๆ เช่นเดิม

21 สิงหาคม อดัมฝันเห็นเด็กชายหัวบุบอีกครั้ง คราวนี้เดวิดเข้ามาคว้าแขนเขาและพาเดินไปยังโกดังร้างแห่งหนึ่ง น่าแปลกที่เมื่อตื่นขึ้นมาแขนข้างนั้นมีรอยช้ำ อดัมไม่อยากจะคิดมาก บางทีอาจแขนเขาอาจช้ำมาก่อนที่จะฝันก็ได้ ทว่าในสุดสัปดาห์นั้นระหว่างทางที่กำลังเดินจากที่พักไปซื้อกาแฟ โกดังที่เคยเป็นอู่ซ่อมบูธขายอาหารมาก่อนจู่ๆ ก็ปิดตัวลงกลายเป็นโกดังเปล่า ประตูได้เปิดค้างไว้อดัมจึงแอบเดินเข้าไปดู ปรากฏว่าสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในโกดังนั้นคือเก้าอี้สีเขียวตัวหนึ่ง…

หลังจากวันนั้น แมวของเขาที่เคยมานั่งจดจ้องที่ประตูเวลาราวๆ เที่ยงคืนของทุกวันก็เริ่มเปลี่ยนเวลามาเร็วขึ้นๆ จนกลายเป็นมานั่งตอนสี่ทุ่ม แล้วส่งเสียงร้องที่หน้าประตูแบบนั้นอยู่ราว 15 นาที แล้วก็แยกย้ายไปเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ และอีกไม่กี่วันอดัมก็เจอเรื่องแปลกๆ มีสายที่ไม่โชว์หมายเลขโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของเขา เป็นอย่างนี้มาหลายครั้งโดยที่เขาไม่ได้รับ จนในที่สุดอดัมจึงตัดสินใจรับสายเพราะคิดว่าถ้าเป็นพวกสายอัตโนมัติโทรมาขายของ เมื่อยกหูรับสักครั้งก็จะเลิกโทรไปเอง แต่ปรากฏว่าเมื่อยกหู สิ่งที่ได้ยินมีเพียงเสียงเหมือนคลื่นไฟฟ้าดังหวี่ๆ อยู่ร่วมนาทีจึงหยุดลง ก่อนจะมีเสียงเล็กๆ ที่ปลายสายพูดแผ่วๆ ขึ้นว่า “สวัสดี…” อดัมผวาสุดขีดและวางหูทันที เขาไม่กล้าแม้แต่จะเดาว่าเป็นใครที่โทรมา

อดัมย้ายเก้าอี้โยกสีเขียวออกมาไว้นอกห้องนอน เขาไม่ได้ทิ้งมันเพราะไม่แน่ใจว่ามันเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดจริงหรือไม่ อย่างไรก็ดีอดัมบอกว่ากำลังจะมีทริปไปญี่ปุ่น 3 สัปดาห์ เขาเลยซื้อเครื่องบันทึกภาพและจับความเคลื่อนไหวมาติดเพื่อเอาไว้ดูแมวของเขาในช่วงที่จะไม่อยู่ แต่ก่อนจะได้เดินทางไป กล้องก็สามารถจับภาพเหตุการณ์แปลกๆ ได้ เก้าอี้โยกตัวสีเขียวที่เอามาวางนอกห้องนอนจู่ๆ ก็โยกเยกไปมาเอง และกระดองเต่าที่ติดประดับผนังจู่ๆ ก็ร่วงหล่นลงมาโดยไม่มีอะไรไปโดน ยังไม่นับภาพประหลาดที่เขาถ่ายลวกๆ จากโกดังร้างแห่งเดิม มันถ่ายติดสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นตู้ใบหนึ่งกับเก้าอี้ออฟฟิศที่เบาะขาดจนฟองน้ำหลุดลุ่ยออกมา ทว่าอดัมกลับรู้สึกว่าในมุมมืดนั้น เขาถ่ายติดอะไรอีกอย่างออกมาลางๆ สิ่งที่เขาดูเหมือนว่านั่นคือเดวิด…แต่อดัมก็ยังปลอดตัวเองว่าบางทีก็เขาก็แค่หมกมุ่นกับเรื่องประหลาด จนจินตนาทำให้สายตามองเห็นเป็นอย่างนั้นไปเอง

และแล้วทริปไปญี่ปุ่นก็มาถึง ดูจะเป็นทริปที่เรียบร้อยดี จนกระทั่งวันที่ 3 ตุลาคม วันสุดท้ายก่อนบินกลับ อดัมไปเดินเล่นและถ่ายรูปประติมากรรมเสาสลักที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองซับโปโร เขาเดินถ่ายไปรอบๆ แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับสิ่งที่เห็นด้านล่างนี้… อดัมไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไร แต่เขาอดนึกถึงผีเด็กเดวิดที่ตามหลอกหลอนเขาอยู่ไม่ได้เลย

เมื่อกลับมายังห้องพักที่อพาร์ตเม้นท์แห่งเดิม อดัมก็กลับมาเจอเรื่องหลอนประหลาดอีกราวมันจะอยู่กับเขาไปไม่รู้จักจบ ทีวีในห้องของเขาจู่ๆ ก็ติดๆ ดับๆ ได้เอง ทั้งที่เพิ่งซื้อมาได้ 2 เดือนกว่าๆ เร็วเกินไปที่จะเสียหรือออกอาการทำงานผิดปกติ เขายังได้ยินเสียงขูดข่วนแผ่วเบาที่หน้าประตู อดัมไม่กล้าเปิดแต่ได้ใช้มือถือถ่ายรูปผ่านตาแมวออกไป ภาพที่ได้ดูมัวและเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เมื่อเพ่งดีๆ อดัมรู้สึกว่าเขามองเห็นส่วนหูของดวงตาของใบหน้าหนึ่งกำลังลังจ้องมองกลับมาที่ตัวเขา!

I see it, but the features don’t quite seem human. To me, it looks a lot like the kid in that statue you saw, from a higher angle… pic.twitter.com/1GuxzalPFL

— Shane Hawkins (@Krowphay) October 14, 2017

27 ตุลาคม อดัมกลับมาอัพเดทเรื่องราวอีกครั้ง เขาได้เดินผ่านโกดังร้างนั้นอีกหน รู้สึกประหลาดและหวาดๆ ไม่น้อยที่ได้พบว่าโกดังที่ถูกปิดทิ้งร้างมาร่วมสองเดือนแล้ว จู่ๆ วันนี้ก็มีรถที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายโลงศพมาจอดทิ้งเอาไว้ อีกไม่กี่วันถัดมาเรื่องที่ทำให้ขนลุกชันขวัญผวาก็เกิดขึ้นอีก  อดัมเห็นแมวทั้งสองของเขาจ้องมองออกไปทางหน้าต่าง เขาคิดว่าพวกมันอาจมองเห็นหนูหรืออะไรสักอย่างที่ด้านนอก เขามองตามในแวบแรกและก็ไม่เห็นอะไร อดัมไม่ได้สนใจและเดินเข้าไปในครัว แต่หนนี้หน้าต่างจากในครัวที่หันออกไปด้านเดียวกัน เมื่อมองออกไปคราวนี้เขากลับเห็นว่ามีใครก็ไม่รู้ยืนอยู่บนหลังคาตึกข้างๆ และมองเข้ามาในห้องเขา อดัมตกใจสุดขีด เขารีบรูดม่านลงและปิดไฟภายในห้อง พยายามถ่ายภาพบุคคลต้องสงสัยนั้นให้ได้ ภาพแรกเขาถ่ายได้แบบมัวๆ เมื่อพยายามจะถ่ายอีกครั้งอะไรก็ตามที่เคยอยู่ตรงนั้นได้หายไปแล้ว!

การอัพเดทหลังจากนี้ทิ้งช่วงไป จนกระทั่งวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อดัมกลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวหลอนขีดสุดตั้งแต่พบเจอเรื่องประหลาดมา เขาเล่าว่าจู่ๆ ก็ฝันถึงผีเด็กคนนั้นอีก เดวิดนั่งอยู่ที่อาร์มแชร์ เพราะคราวนี้เก้าอี้โยกสีเขียวไม่อยู่ในห้องเขาแล้ว มันยังคงจ้องมาที่เขาและค่อยๆ เคลื่อนลงจากเกาอี้ตรงมาหาเขา อดัมกลัวจนตัวแข็งแต่ยังพอขยับร่างกายได้ ในฝันนั้นเขาเลยคว้าเอามือถือที่วางไว้ข้างหมอนขึ้นมาถ่ายรูปไว้เท่าที่ทำได้ อดัมคิดกับตัวเองในความฝันว่าจะต้องได้หลักฐานอะไนเกี่ยวกับเดวิดเอาไว้บ้าง แล้วเด็กหัวบุบนั้นก็ยิ่งขยับใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาจนเกือบถึงตัว แล้วอดัมก็สะดุ้งตื่น!

…มันก็เหมือนกับทุกครั้งที่ฝันร้าย อดัมตื่นขึ้นมาตอนฟ้าสว่างแล้ว ไม่มีร่องรอยใดๆ ของผีเด็กเดวิด เขาค่อยๆ รวบรวมสติกลับคืนมา ความหวาดผวาค่อยๆ จางลง แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานเช่นปกติ แต่วันคืนวันที่เขากำลังนั่งพิมพ์อยู่นี้ อดัมบอกว่านั่งเช็คโทรศัพท์ตัวเอง แล้วกลับพบว่ามีรูปมืดๆ อยู่นับสิบรูปในแกลลอรี่ เวลาระบุว่าถ่ายเมื่อ 2 คืนก่อนหน้านี้ และนี่คือสิ่งที่เขาโพสต์ให้ดู เมื่อลองปรับภาพให้สว่าง.. มันเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากสิ่งนั้นที่หลอกหลอนอดัมมานานนับเดือน มันคือเดวิด! อดัมบอกว่าไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่เห็นนี้ว่าอย่างไร ณ เวลานี้ เขายังนั่งอยู่ในห้องเดิมของเขา และไม่สามารถข่มตาลงนอนได้เลย

และ ณ ตอนนี้ (13 พฤศจิกายน) ยังไม่มีการอัพเดทหรือข้อความใหม่ใดๆ จากอดัมเลย ทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องหลอนสุดขนหัวลุก หรือจบลงด้วยว่าเป็นเรื่องแต่งที่วางพล็อตมาอย่างดี…ก็ต้องรอดูกันต่อไป หรือจะไปจับตารอฟังความเคลื่อนไหวของเขาได้โดยตรงที่ @moby_dickhead และอีกช่องทางหนึ่งที่ทวิตเตอร์เรื่องสยองของแอนนี่ @annystory_club ทวิตเตอร์ภาษาไทยที่แชร์เรื่องหลอนซึ่งคอยติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น

ที่มา: @moby_dickhead, Mirror