คงไม่เกินจริงนัก ถ้าจะบอกว่าบทสนทนาบนมือถืออาจจืดชืดไปเลยหากวันใดไม่มีสติ๊กเกอร์ให้ใช้ สาวกแอพพลิเคชั่น LINE คงรู้ดี

เดือนนี้ ครบรอบ 1 ปีหลังจากที่ LINE เปิด Creators Market ให้ผู้ใช้ทั่วโลกนำสติ๊กเกอร์วาดเองออกขายได้ ในตลาดไทย กระแสสติ๊กเกอร์ยังแรงต่อเนื่องจนทำให้จำนวนชุดสติ๊กเกอร์พุ่งสูงจนเกือบแตะหลักแสนแล้ว

“ชะนีเฟอร์” (อ่านว่า ชะ-นี-เฟ่อ) เป็นหนึ่งในสติ๊กเกอร์ที่น่าจับตามองที่สุด เราสนใจสติ๊กเกอร์ชุดนี้ทั้งในแง่ยอดดาวน์โหลด และในแง่การออกแบบที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่เข้าไป ทำให้ผู้ใช้สนุกไปกับการเรียงสติ๊กเกอร์เป็นประโยคกวนแกมทะลึ่งได้ไม่รู้จบ อาทิ “อยาก-จุ๊บจุ๊บ-ตัวเอง” หรือ “เค้า-อยาก-ได้-ผัวผัว” (เราขอหยุดการยกตัวอย่างเพียงเท่านี้ ก่อนที่จะกลายเป็นบทสัมภาษณ์ 18+)

ต้น-วรานนท์ ทองแกม และ กร-โกศล ทองด้วง คู่หูแห่ง Gaxtoon ผู้สร้างชะนีเฟอร์ ถือเป็นนักขายสติ๊กเกอร์ที่ประสบความสำเร็จเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของผู้ขายทั้งหมด 8 เดือนที่ผ่านมา พวกเขากวาดรายได้รวมนับล้านบาทจากผลงานทั้งหมด 7 ตัว เราชวนต้นกับกรพูดคุยถึงที่มาของชะนีเฟอร์ เคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้สติ๊กเกอร์ขายติดชาร์ตนำสติ๊กเกอร์แจก รวมไปถึงการออกแบบคาแรกเตอร์แต่ละตัวที่ดูเหมือนง่าย แต่มีกระบวนการซับซ้อนกว่าที่คิด
 

ก่อนจะมาเป็น “ชะนีเฟอร์”

ต้น: เราเริ่มจาก ‘แซม สาธุบอย’ ตัวนี้เราเคยเอาไปโพสในเว็บพันทิป มันก็ดังขึ้นมาในระดับนึง ตัวถัดมาก็เป็น ‘เงาะกวน’ ตัวนี้ยิ่งดังขึ้นไปอีก สามารถทำยอดขายทะลุล้านเยนได้ในเวลาประมาณ 2 เดือน ถัดมาก็เป็น ‘ซาร่า สาธุเกิร์ล’ ซึ่งก็จัดว่าขายดีกว่าแซม สาธุบอย แต่ก็ยังไม่เท่าเงาะกวน แล้วก็มีอีกหลายตัวที่ไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ แต่ก็มี ‘ชะนีเฟอร์’ นี่แหละที่พุ่งขึ้นมา

กร: เราก็ดูจากของคนอื่นๆ แล้วมาพัฒนาให้ดีขึ้น อย่างชุดที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเราก็มี ส่วนมากจะเป็นชุดที่เราออกแบบเอาสนุก ทำเล่นๆ ลองตลาดว่าคนจะชอบแนวนี้มั้ย แต่ล่าสุดชะนีเฟอร์ก็ไม่คิดว่ามันจะบูมมากขนาดนี้ จนติดอันดับต้นๆ ของกลุ่ม Creator’s Stickers ที่ตอนนี้มีเยอะเป็นหลักแสนตัวแล้ว
 

ทำไมต้อง “ชะนี”

ต้น: อันนี้เราตั้งใจทำโดยมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะผมทำสติกเกอร์มาก็พอจะรู้ว่า กลุ่มลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อสติกเกอร์แบบง่ายๆ และซื้อเยอะที่สุดเลยคือกลุ่มผู้หญิงกับกลุ่มสาวประเภทสอง เลยคิดว่าอยากทำสติกเกอร์ที่สามารถต่อคำได้และจับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

กร: ปกติคนใช้สติกเกอร์จะใช้เพื่อแทนตัวเอง ผู้หญิงจะใช้ตัวสติกเกอร์ผู้หญิง ผู้ชายจะใช้ตัวสติกเกอร์ผู้ชาย แต่สัตว์เนี่ยเป็นอะไรที่ unisex ผู้หญิงก็ใช้ได้ ผู้ชายใช้ก็ดี อีกอย่างคือเราจะถนัดออกแบบสติกเกอร์ที่มันดูกวนๆ แฝงด้วยความน่ารัก เราก็เลยคิดว่าตัวชะนี มันน่าจะเอามาเล่นได้เยอะ แต่คาแรกเตอร์ของสัตว์มันก็ยังคงอยู่ แค่มาใส่คำในแบบของคนลงไป
 

แล้ว “เฟอร์” ล่ะ

ต้น: ชื่อก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญนะครับ อย่างชื่อเราก็ได้ไอเดียมาจากรายการ The Voice แล้วมีคนที่เข้าประกวดชื่อจอนนิเฟอร์ โค้ชก็คือเจนนิเฟอร์ คิ้ม เราก็กำลังคิดชื่อชุดนั้นพอดี เลยมาเป็นชะนีเฟอร์

กร: ชื่อมันจะบ่งบอกถึงบุคลิก อย่างคำว่าเงาะกวน ก็จะบอกลักษณะคาแรกเตอร์ไปเลย หรืออย่างแซม สาธุบอย ก็จะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือคนที่ธรรมะ ธัมโม
 

คิดว่าอะไรทำให้ “ชะนีเฟอร์” มียอดดาวน์โหลดสูงมาก

ต้น: องค์ประกอบที่ทำให้สติกเกอร์ไลน์ชุดนี้มันประสบความสำเร็จก็คือ หนึ่งการใช้คำที่โดดเด่น ผู้ใช้สามารถ create ประโยคเองได้ สองคือคำที่ใช้เราตั้งใจไว้แต่แรกว่ากลุ่มเป้าหมายนี้ เค้าจะใช้คำพูดประมาณไหน เราสองคนก็จะช่วยลิสต์กันออกมา สามคือด้วยความที่กรเป็นนัดวาดภาพประกอบมืออาชีพ เค้าก็จะรู้คนชอบลายเส้นแบบไหน สีสันแบบไหน

กร: อีกอย่างคือก่อนการลงมือทำ เราจะรีเสิร์ชกันนิดหน่อย เอาไปถามคนที่เราคิดว่าเป็นกลุ่มเป้าหมาย ว่าเค้าชอบมั้ย ชอบสีแบบไหน ควรเปลี่ยนหรือแก้ตรงไหน อย่างคำพูดก็ช่วยให้เพื่อนๆ ดูว่า อารมณ์แบบนี้ควรใช้คำแบบไหน ที่สำคัญคืองานชะนีเฟอร์จะละเอียดกว่าสติกเกอร์อันอื่นๆ เพราะใช้เทคนิคการวาดด้วยสีน้ำ มันก็จะต่างจากคนอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่วาดด้วยคอมพิวเตอร์

ผลงานที่ผ่านมาของ Gaxtoon (ซ้ายไปขวา): แซม สาธุบอย, ซาร่า สาธุเกิร์ล, เงาะกวน, เบลล่า เลิศสแมนแตน, มุ้งมิ้ง อะมีบ้าน่ารัก, แก๊งค์ อะมีบ้า สุดซ่า เอ๊กซ์

วิธีการโปรโมตสติกเกอร์

ต้น: มันมีหลายวิธีเลยครับ อย่างแซม สาธุบอย เราก็เอาไปโปรโมทในพันทิปและก็คนรู้จัก เงาะกวน เราก็ลองอยู่หลายแบบทั้งจ่ายเงินค่าโฆษณาลงเฟซบุ๊ก แจกสติกเกอร์ ทำโปรโมชั่น ส่วนชะนีเฟอร์เอาไปให้เพื่อนๆ ใช้ โดยเฉพาะคนที่เราคิดว่าเค้าเป็นกลุ่มเป้าหมาย

กร: อย่างเพื่อนๆ เราก็จะขอให้เค้าช่วยใช้หน่อย ช่วยแชร์หน่อย อย่างชะนีเฟอร์เนี่ย ตอนแรกก็คิดว่าจะทำแผนการตลาดเหมือนกันนะ แต่ว่ายังไม่ทันได้ทำก็ยอดดาวน์โหลดสูงมาก เราเลยไม่ได้ทำต่อ เพราะพอมันติดอันดับมันก็จะกระจายยอดขายไปได้เอง ส่วนในเฟซบุ๊กเราก็พยายามให้ความรู้ว่าตัวชะนีคืออะไรด้วย ก็ไม่รู้ว่ามันคือการโปรโมตมั้ย
 

เริ่มทำสติกเกอร์ LINE ได้อย่างไร

ต้น: เราพอจะรู้ข้อมูลในตลาดอยู่แล้วว่า สติกเกอร์ของไลน์สามารถทำรายได้กว่าพันล้านบาททั่วโลก พอเค้ามาเปิดตลาด Creator’s Stickers ตัวผมเองก็ชอบวาดรูปอยู่แล้ว พอเห็นมีโอกาสมีช่องทางก็ลองสักหน่อย พอลองแล้วก็ใช้หลักการตลาด ความรู้นู่นนี่นั่นมาประกอบกัน มันก็เลยเป็นงานอดิเรกที่ทำรายได้มากกว่าเงินประจำ ซึ่งทุกชุดที่เราทำออกมา เราก็คาดหวังว่ามันจะขายดี แต่ก็เผื่อใจไว้ด้วยบ้าง ส่วนที่พอขายได้ในระดับนึงก็เป็นกำลังใจให้ทำตัวต่อๆ ไป

กร: ส่วนผมมาทีหลังครับ คือตอนแรกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะคิดว่าการทำสติกเกอร์ไลน์มันจะทำรายได้ให้เราจริงๆ หรอ แต่พอหลังจากที่ต้นเค้าปล่อยขายแซม สาธุบอย เราก็เปลี่ยนความคิด มันก็เลยออกมาเป็นผลงานเงาะกวน ที่ยอดขายยิ่งดีกว่าเดิมขึ้นไปอีก ซึ่งจากสติกเกอร์ 7 ตัว ที่เราขายไปในระยะเวลา 8 เดือน ทำรายได้รวมประมาณ 1 ล้านบาท
 

มารวมตัวกันเป็น Gaxtoon ได้อย่างไร

ต้น: ปกติผมจะเห็นว่าคนเราไม่ได้เก่งไปทุกด้าน อย่างคนที่เค้าครีเอทีฟไปเลยแต่วาดรูปไม่เก่งก็มี กับสายอาร์ตที่วาดรูปสวยสุดๆ แต่หัวอาจไม่ค่อยครีเอทีฟก็มี ทีนี้ผมวาดรูปได้ แล้วก็จะชอบเรื่องการคิด ส่วนกรเค้าก็เป็นนักวาดภาพประกอบมือฉมัง เคยได้รางวัล พอเรามารวมตัวกัน เราก็สามารถอุดช่องโหว่ตรงนั้นได้

กร: คือ Gaxtoon เนี่ย มันไม่ใช่ชื่อบริษัทหรืออะไรนะ มันแค่เป็นการรวมตัวกันของเราสองคน ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อเจ้าของสติกเกอร์ไลน์จะเป็นแยกของใครของมัน เพื่อให้คนซื้อเค้ารู้ว่าลายเส้นแบบนี้เป็นของใคร อย่างของชะนีเฟอร์เอง ก็เป็นชื่อผม คือสไตล์ของสติกเกอร์ไลน์เราสองคนมันก็จะแตกต่างกันอยู่แล้ว
 

COCO Q&A: คอลัมน์สนทนากับบุคคลน่าสนใจที่คนกรุงเทพฯ ควรรู้จัก เปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตไปกับเรา 

มีใครน่าสนใจหรืออยากให้สัมภาษณ์ใคร ส่งมาบอกเราได้ที่ krungthep@coconuts.co